มาตรการเข้ม! คุมตัว 'ผู้กองเหน่ง' ขึ้นศาลพลเรือนครั้งแรก

มาตรการเข้ม! คุมตัว 'ผู้กองเหน่ง' ขึ้นศาลพลเรือนครั้งแรก

"ผู้กองเหน่ง" เตรียมขึ้นศาลพลเรือนครั้งแรก 8 ม.ค. สั่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม ด้านพ่อแม่ติดตามคดีใกล้ชิด

สำหรับคดีนางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ผอ.กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่หายตัวออกจากบ้าน กระทั่งตำรวจมีหลักฐานเชื่อมโยง พบว่าร้อยเอกศุภชัย ภาโส อายุ 30 ปี ผู้บัญชาการกองร้อยอาวุธเบาที่ 2 กองพันทหารราบที่2 กรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี รับราชการมีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากรวบรวมพยานหลักฐานจึงได้ยื่นต่อศาลกันทรลักษ์

โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 61 นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการศาลจังหวัดกันทรลักษ์ สั่งฟ้องร้อยเอกศุภชัย และพวก รวม 4 คน คือ ร้อยเอก ศุภชัย ภาโส อายุ 30 ปี อาชีพ รับราชการทหาร จำเลยที่ 1 ในข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองเอาไว้ก่อน กักขัง หน่วงเหนี่ยวผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้น ย้าย ทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย พร้อมกับพวกอีก 3 คน คือ นางสุชาวดี ปทุมอินทร์ อายุ 50 ปี จำเลยที่ 2 นายวิทูรย์ ท้าวแก้ว อายุ 39 ปี จำเลยที่ 3 และนายประกรรษวัต คณะพันธ์ อายุ 41 ปี จำเลยที่4 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ร่วมกันเอาเสียเอกสารของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ร่วมกันเอาไปเสีย หรือยึดไว้ซึ่งบัตรประชาชน ร่วมกันปลอมแปลง และใช้เอกสารปลอม

โดยเวลา 10.00 น.วันที่ 8 มกราคม 2561 ศาลได้พร้อมนัดสอบสวน โดยจะนำตัวร้อยเอกศุภชัย หรือผู้กองเหน่ง ออกจากเรือนจำครั้งแรกนับตั้งแต่ได้ฝากขัง ซึ่งคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะพ่อแม่ญาติของ ผอ.อ้อย ที่จะติดตามไปเฝ้าดู และสังเกตการณ์ทั้งที่เรือนจำ และศาลจังหวัดกันทรลักษ์

ส่วนบรรยากาศที่บ้านของนายบุญเลิศ นางแหลม อุ่นอ่อน บิดามารดา ผอ.อ้อย ยังคง พักผ่อนอยู่ที่บ้านมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาสอบถามข่าวเป็นระยะ นางแหลม กล่าวว่า ได้ข่าว ว่าในวันที่ 8 ม.ค.61 เจ้าหน้าที่จะนำตัวร้อยเอกศุภชัยมาที่ศาล ก็จะไปติดตามดู อยากรู้ว่า ทำไมจิตใจโหดเหี้ยม ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น มาถึงวันนี้ก็ยังไม่รับสารภาพอีกว่าเป็นผู้ลงมือ ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า จะขอต่อสู้ไปจนถึงที่สุด มั่นใจเจ้าหน้าที่บ้านเมือง รวมทั้งนายทหารผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่จะให้ความเป็นธรรมต่อลูกตน ที่สูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน เงินทอง โทษที่ควรได้รับก็คือ ประหาร เพียงอย่างเดียว

ด้านนายไพสัน ขุ่ยรานหญ้า ผบ.เรือนจำกันทรลักษ์ กล่าวว่า ในระเบียบการนำตัวผู้ต้องขังออกมาจากเรือนจำ เจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้าไปในเรือนจำ พร้อมกับรถตู้ดำ ที่ใช้บรรทุกผู้ต้องขังโดยเฉพาะนำตัวขึ้นรถก่อนนำตัวออกมานำไปส่งยังศาลเพื่อดำเนินคดี ว่าความกันตามระเบียน จะไม่ได้ให้ผู้ต้องขังได้เดินออกมาขึ้นรถยนต์ด้านนอกแต่อย่างใด เพราะจะต้องเป็นความปลอดภัยของผู้ต้องขัง หวั่นจะมีการชิงตัว หรือหลบหนี อันนี้เป็นระเบียนปกติของทางเรือนจำ ดังนั้นโอกาสที่ญาติๆ ผอ.อ้อย ที่มาเพื่อเห็นหน้า ผู้ต้องขังคงจะไม่มีแน่นอน เพราะรถยนต์วิ่งเข้าไปรับจากด้านใน และวิ่งตรงไปศาลกันทรลักษ์ทันที