8แรงงานไทยถูกหลอกจะพาไปเกาหลี โดนเชิดเงินหนีรวม1.4แสน

8แรงงานไทยถูกหลอกจะพาไปเกาหลี โดนเชิดเงินหนีรวม1.4แสน

คนร้ายใช้เฟชบุ๊ค หลอก8แรงงานไทย ว่าจะพาไปทำงานเกาหลีใต้ ก่อนเชิดเงินหนีกว่า 1 แสนบาท ด้านจนท.จัดหางานโคราช ลงพื้นที่ช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 61 นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 208 บ้านสองห้อง หมู่ที่ 9 ต.ตลาดไทร อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับกลุ่มแรงงานชาวไทย 8 คน ที่ถูกมิจฉาชีพ ใช้เฟชบุ๊คหลอกลวงว่าจะช่วยให้ไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จนเสียทรัพย์สินกว่า 140,000 บาท โดยได้ทำการรวบรวมเอกสาร และหลักฐานของการหลอกลวง ได้แก่ บัญชีธนาคารผู้รับโอนเงิน, หน้าเฟชบุ๊คมิจฉาชีพ, สลิปการโอนเงิน, ข้อความแชทคุยกัน และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพวง ให้เร่งทำการสืบสวนหามิจฉาชีพรายนี้มาดำเนินคดี

โดยนางบุญเลิศ อาจดี อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2560 ได้เข้าไปพบข้อมูลในเฟชบุ๊คของชายหนุ่มคนหนึ่ง โพสต์ข้อความโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถช่วยให้คนว่างงาน เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ได้ ซึ่งเป็นงานเกี่ยวกับทำการเกษตร ประกอบกับขณะนั้นตนก็กำลังหางานทำอยู่ จึงรู้สึกสนใจและลองติดต่อทางเฟชบุ๊คดู จนได้มีการทักแชทคุยกัน จึงตกลงว่าจะต้องไปทำพาสปอร์ต ส่งไปให้เขา พร้อมกับเอกสารต่างๆ เพื่อที่จะจองตั๋วเครื่องบินให้ โดยตกลงราคาค่าดำเนินการ และค่าตั๋วเครื่องบินไป คนละ 17,000 บาท จึงทำให้ตนรีบไปกู้ยืมเงินนอกระบบ รวมทั้งนำที่นาไปจำนองไว้ เพื่อเอาเงินมาใช้ในการเดินทาง ต่อมามีญาติอีก 5 คนหลงเชื่อด้วย รวมทั้งตนเป็น 6 คน จึงได้พากันโอนเงินไปให้คนละ 17,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร เลขที่ 408-006102-0

ต่อมา มีเพื่อนบ้านที่รู้จักกันชาว จ.ขอนแก่น สนใจร่วมเดินทางไปด้วยอีก 2 คน จึงโอนเงินไปให้อีกคนละ 20,000 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น กว่า 142,000 บาท โดยได้มีการนัดเวลาเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 หลังจากนั้นก็ได้มีการติดต่อพูดคุยกับนายก้องภพอย่างต่อเนื่อง แต่ต่อมาเมื่อใกล้จะเดินทาง นายก้องภพก็ได้ปิดเฟชบุ๊คหนี ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้รู้ว่าโดนมิจฉาชีพหลอกลวงเสียแล้ว และได้เข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมพวง เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 เพื่อให้อายัดบัญชีธนาคารไว้ พร้อมกับให้สืบสวนหาตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

ด้านนางสาวกนกพร ฉลอยฉิม อายุ 24 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนเองนั้นทำงานเป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร แต่ด้วยความจนบังคับจิตใจ จึงอยากได้งานใหม่ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะต้องการนำเงินมาสร้างบ้านให้แม่อยู่อาศัย พอได้ยินข่าวจากญาติที่มาเล่าให้ฟังเรื่องไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ จึงรู้สึกสนใจ และนำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ไปขาย เพื่อที่จะได้เงินมาใช้เป็นค่าเดินทาง ต่อมาเมื่อใกล้จะเดินทาง จึงได้รู้ว่าถูกหลอก ทำให้เสียใจมาก เพราะเสียเงินเสียทองไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะระมัดระวังตัวไว้ ถ้าอยากไปทำงานก็จะไปติดต่อที่สำนักงานจัดหางาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายดีกว่า

นางนิธิอร กล่าวว่า คดีแรงงานไทยถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศลักษณะนี้ มีให้เห็นบ่อยครั้ง ซึ่งทุกวันนี้มิจฉาชีพได้ใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่สามารถเชื่อต่อกับเหยื่อได้ง่าย รวมทั้งยังสามารถปลอมแปลงชื่อ ที่อยู่ อาชีพ เพื่อสร้างเป็นโปรไฟล์หลอกให้ดูน่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายเมื่อหลอกเหยื่อได้เงินมาก็จะเปิดโซเชียลหนีไปอย่างลอยนวล จึงอยากฝากเตือนแรงงานไทยที่อยากจะไปทำงานในต่างประเทศ ก่อนโอนเงินไปให้ ควรตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ว่าบุคคล หรือหน่วยงานนั้นๆ ได้รับการรับรองจากกรมจัดหางานหรือไม่ ถ้าจะให้ดีก็ให้มาติดต่อที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด ซึ่งจะมีข้อมูลของบริษัทจัดหางานที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับติดตามข้อมูลข่าวสาร ที่จะมีการจัดนัดพบแรงงานเพื่อให้บริษัทจัดหางาน และแรงงานได้มาพูดคุยกัน ซึ่งจะทำให้สามารถได้เดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างปลอดภัย และถูกต้องตามกฎหมายด้วย