แม่เฒ่า 102 ปี สิ้นลมหลังเปลี่ยนศักราชใหม่ได้ 2 วัน

แม่เฒ่า 102 ปี สิ้นลมหลังเปลี่ยนศักราชใหม่ได้ 2 วัน

แม่เฒ่า อายุ 102 ปี นอนหลับสิ้นลมอย่างสงบ หลังจากเปลี่ยนศักราชก้าวสู่ปี พ.ศ.ใหม่ได้เพียงแค่ 2 วัน

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 3 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ บ้านเลขที่ 58 ม.9 ต.บางตีนเป็ด อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ภายในซอยวัดเซนต์ปอล ซึ่งเป็นบ้านของ นางปาน ปิ่นสุวรรณ์ แม่เฒ่าผู้ที่มีอายุยืนยาวมากที่สุดในตำบลบางตีนเป็ด ที่เพิ่งเสียชีวิตลงเมื่อช่วงเวลา 21.00 น. คืนที่ผ่านมา โดยมีอายุครบ 102 ปี ในปี ค.ศ. 2018 หรือ พ.ศ. 2561 พอดี

หลังการสอบถามบรรดาบุตรหลาน และ น.ส.มานิตย์ ปิ่นสุวรรณ อายุ 61 ปี บุตรสาวคนสุดท้องของแม่เฒ่ารายนี้ จากจำนวนบุตรของนางปานที่มีรวมทั้งหมด 6 คน เล่าว่า นางปานเกิดในปี พ.ศ. 2459 หรือเมื่อประมาณ 102 ปีที่ผ่านมา แต่ไม่ทราบวันเดือนที่แน่ชัด เพราะในบัตรประชาชนนั้นไม่ได้ระบุไว้ แต่เมื่อเข้าสู่ศักราชใหม่ คือ ค.ศ. 2018 หรือ พ.ศ. 2561 ได้เพียงไม่นาน นางปานได้สิ้นลมหายใจไป เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 - 21.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมานี้เอง (2 ม.ค.) บนที่นอนภายในบ้านอย่างสงบ โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวมาก่อน

น.ส.มานิตย์ เล่าว่า ผู้เป็นมารดาไปอย่างสงบมาก ทั้งที่ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีบุตรหลาน เหลน โหลน เดินทางมาเยี่ยมจากที่อื่น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้เข้ามาวิ่งเล่นอยู่บนบ้านที่คุณแม่นอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน แต่ก็ไม่มีใครทราบว่าแกไปตั้งแต่ตอนไหน หลังจากที่ตนได้เข้ามาดูในช่วงเวลาประมาณ 20.30 น. จึงพบว่าคุณแม่นั้นได้นิ่งเงียบไปแล้ว ก่อนที่จะไปตามหลานสาวซึ่งเป็นพยาบาลให้มาช่วยดูว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งหลานสาวที่เป็นพยาบาลก็ได้ยืนยันว่า คุณแม่ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว แต่ก็เชื่อว่าเพิ่งเสียไปได้ไม่นาน เพราะร่างกายยังคงอุ่นอยู่เลย

ก่อนหน้านี้คุณแม่เป็นคนแข็งแรง และยังสามารถใช้เครื่องพยุงค้ำยันและเดินได้ แต่ด้วยความชราภาพมากและความเสื่อมของกระดูก เมื่อปีที่แล้วได้ทรุดนั่งลงกระแทกกับพื้นในขณะกำลังยืนจนทำให้กระดูกสะโพกหลุดจนเดินไม่ได้ และกลายเป็นคนไข้ติดเตียงเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ทรุดนั่งลงกระแทกกับพื้นไม่แรงมากนัก บรรดาลูกหลานจึงได้รวบรวมเงินค่าผ่าตัดมาให้ เพื่อทำการผ่าตัดเปลี่ยนเสริมเบ้ากระดูกใหม่ แต่แม่แกไม่ยอมให้ทำ แถมยังต่อว่าแพทย์ และดุบรรดาลูกหลานอีกด้วย

โดยแกบอกว่า จะอยู่อย่างนี้ พร้อมถามกลับมาว่า แม่คนเดียวเลี้ยงไม่ได้หรือ จึงไม่มีใครกล้าคิดจะพาไปผ่าตัดอีก จึงต้องนอนเป็นคนไข้ติดเตียงดังกล่าวแบบนี้

น.ส.มานิตย์ กล่าวต่ออีกว่า แม่ไปอย่างสงบ ไปแบบสบาย เงียบๆ เพราะไม่ได้เจ็บป่วยในด้านอื่นๆ และไม่เคยต้องเข้านอนโรงพยาบาล นอนหลับไปบนที่นอนโดยไม่รู้สึกตัว เพราะไม่ได้มีเสียงร้องอะไรเลย เนื่องจากตนเป็นคนที่คอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดที่สุดแล้ว หลังจากนี้ก็จะทำการประกอบพิธีทางศาสนาแบบชาวคริสต์ โดยในคืนวันนี้จะทำการสวดทำพิธีเป็นคืนแรกในเวลา 19.00 น. เป็นเวลา 5 วัน ภายในศาลาวัดเซนต์ปอลแห่งนี้ จากนั้นในวันจันทร์ที่ 8 ม.ค. จึงจะมีพิธีปลงศพในเวลา 15.00 น. และฝังตามประเพณีทางศาสนาต่อไป