“เคอรี่”เพิ่มสาขา-โปรแกรมเมอร์รับอีคอมเมอร์ซปีหน้ารุ่ง

นายอเล็กซ์ อึ้ง ผู้อำนวยการบริหารสายงานธุรกิจรับ-ส่งพัสดุ เคอรี่ โลจิสติกส์ กรุ๊ป ประจำสาขาประเทศไทย กล่าวว่าปีหน้าบริษัทมีแผนขยายธุรกิจ โดยจะเพิ่มจุดบริการกว่า 2,300 แห่ง ทั้งในส่วนเฉพาะของเคอรี่ เอ็กซ์เพรส พาร์เซลชอป และการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงเปิดศูนย์กระจายสินค้าย่อยอีกกว่า 300 แห่ง  

"เราประกาศสโลแกน  เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ทุกที่ ทั่วไทย ซึ่งตามแนวทางนี้คาดว่ายังจะสามารถสร้างงานได้อีกกว่า 3,000 อัตรา ในทุกจังหวัดทั่วประเทศและยังทำให้เคอรี่ขึ้นแท่นผู้นำในการให้บริการจัดส่งพัสดุด่วน ทุกที่ ทั่วไทย พร้อมจัดส่งถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป”

นายอเล็กซ์ กล่าวว่าปีหน้า ตลาดอีคอมเมิร์ซจะแข่งขันรุนแรงยิ่งขึ้น แต่ก็จะทำให้ตลาดเติบโตเช่นกัน ดังนั้นบริษัทจึงต้องวางแผนเพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อควบคู่ไปกับความต้องการในตลาด

นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากการขยายจุดให้บริการ บริษัทยังมีแผนเพิ่มนักเขียนโปรแกรมและนักวิเคราะห์ระบบอีกกว่า 100 คน เพื่อมาพัฒนาระบบโครงสร้างภายในองค์กร ทั้งนี้ระบบปฏิบัติการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ และซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่ใช้ในตลาดขณะนี้ได้รับการออกแบบ พัฒนา และประยุกต์ใช้โดยสำนักงานใหญ่ในประเทศไทยทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังสร้างศูนย์คัดแยกสินค้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง รวมไปถึงการขยายศูนย์คัดแยกสินค้าบนถนน บางนาตราด กม.19 เฟส 2  คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมใช้งานได้ในเดือนมี.ค. 2561 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นรวมกว่า 36,000 ตร.ม.และในอนาคตสามารถขยายเพิ่มได้อีกกว่า 40,000 ตรม.

ปัจจุบัน เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) เป็นผู้นำในด้านการให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนที่จัดส่งภายในวันถัดไป โดยมีจุดที่ให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปกว่า 1,500 สาขา ศูนย์กระจายสินค้าอีกกว่า 600 แห่ง ครบทุกจังหวัด มีอัตราความสำเร็จในการจัดส่งพัสดุถึงมือผู้รับในครั้งแรก 97% นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนภายในวันเดียวในเขตกรุงเทพฯ หรือ  แบงค็อก เซมเดย์ อีกด้วย

สำหรับเคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) เป็นบริษัทในเครือ เคอรี่ โลจิสติกส์ เน็ทเวิร์ค บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง แต่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในไทย รับผิดชอบการบริหารจัดการเครือข่ายของเคอรี่ในฮ่องกง, เวียดนาม, กัมพูชา, มาเลเซีย,สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ด้วย