'น้องเมย' ได้รับเกียรติผู้เสียชีวิตที่มีชื่อเสียงของโลก

'น้องเมย' ได้รับเกียรติผู้เสียชีวิตที่มีชื่อเสียงของโลก

ครอบครัวยอมรับ "น้องเมย" ได้รับเกียรติผู้เสียชีวิตที่มีชื่อเสียงของโลก พ่อโต้เรื่องเงียบเพราะได้เงินมาแล้ว

วันที่ 27 ธันวาคม ที่ศิลาคอฟฟี่ แอนด์บริสโตร หมู่ 5 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี นายพิเชษฐ นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่และพี่สาวของ นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตอย่างปริศนา นอกจากนี้ยังพบว่าอวัยวะภายในหายไปด้วย จึงได้มีการร้องเรียนและให้มีการตรวจสอบ ทางสถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม ได้ยืนยันว่าการเสียชีวิตของน้องเมยว่าจากการถูกทำร้ายร่างกาย ส่วนซี่โครงที่ 4 หักไม่ได้มาจากการทำซีพีอาร์ แต่จากการตั้งคณะกรรมการจากกองทัพบกมาตรวจสอบได้ยืนยันว่า เสียชีวิตจากโรคประจำตัว และซี่โครงที่ 4 หักมาจากการทำซีพีอาร์ ทำให้การชันสูตรทั้ง 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน ทำให้ครอบครัวน้องเมยเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.นครนายกอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ทางด้านเวฟไซด์ได้มีการยกย่องเหลียวหลังรำลึก แต่เหล่าคนดังผู้จากไปในปี 2017 ซึ่งมีชื่อน้องเมยติด 1 ใน 30 ของบุคคลระดับโลกอีกด้วย จึงได้ออกมาแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของคดี



นางสุกัลยากล่าวว่า กรณีที่น้องเมยได้รับเกียรติผู้เสียชีวิตที่มีชื่อเสียงของโลก ตนเพิ่งได้รับเฟสที่ส่งต่อๆว่าน้องเมยติด 1 ใน 30 ของผู้เสียชีวิตที่มีชื่อเสียงของโลก อาจเป็นเพราะประชาชนให้ความสนใจ น้องเมยเป็นบุคคลธรรมดา หากเปรียบเทียบกับผู้ที่เสียชีวิตแล้วส่วนใหญ่จะมีชื่อเสียงทั้งนั้นเลยถือว่ามีเกียรติมาก อย่างไรก็ตามเรื่องของน้องเมยทุกวันนี้ยังเสียใจอยู่มาก แต่ได้รับกำลังใจจากประชาชนทั่วไป จึงทำให้มีกำลังใจต่อสู้ต่อไป ทุกวันนี้มองไปภายในบ้านได้เห็นสิ่งของที่น้องเมยใช้อยู่ก็คิดถึง ร้องไห้ถึงตีสองทุกวันเลย เรื่องนี้จะต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด



น.ส.สุพิชากล่าวว่า หลายคนอาจจะให้ความสนใจเนื่องจากน้องเมยเสียชีวิตยังไม่ปรากฏความชัดแจ้ง ว่าใครเป็นคนทำให้น้องเมยตาย จึงได้มีการติดตามข่าวสารกันจำนวนมาก ทำให้ติดอันดับ 1 ใน 30 คนที่มีชื่อเสียงเสียชีวิต ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้นหลังจากแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีน้องเมยแล้ว ทราบข่าวแต่เพียงว่าได้มีการสอบพยานเพิ่มเติม แต่ไม่ได้รับทราบข่าวความคืบหน้าแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนการติดตามผลการสอบสวนของกองทัพบกคาดว่าจะไปพบคณะกรรมการสอบสวนกลางเดือนมกราคม 2561 คาดว่าผลที่ได้รับคงเหมือนกับ ที่มีการแถลงข่าวไป คงไม่มีอะไรแตกต่าง ส่วนการบอกว่าน้องเมยตกบันได อาจจะทำให้เสียชีวิต เรื่องนี้ก็จะเป็นประเด็นการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่ารู้ใครเห็นบ้างเหมือนกัน อย่างไรก็ตามที่อ้างว่าสุขภาพน้องเมยไม่ดีนั้น เรื่องจะได้มีการนำเอาการตรวจสุขภาพของน้องเมยก่อนที่จะได้เป็นทหารมาพิสูจน์กัน เชื่อมั่นว่าน้องเมยมีสุขภาพดีแข็งแรงแน่นอน ส่วนเรื่องของการติดใจของคณะกรรมการสอบสวนคือเรื่องซี่โครงที่ 4 หักนั้นมาจากการทำพีซีอาร์ ทั้งที่สถาบันนิติเวชฯ ได้แจ้งแล้วว่าไม่ได้เกิดจากการทำซีพีอาร์ รวมทั้งรอยฟกช้ำมาจากการทำร้ายร่างกาย เรื่องนี้มีข้อมูลเชิงลึกยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพื่อไว้ต่อสู้คดี


"ส่วนการตรวจสอบอวัยวะภายในของน้องเมย ขณะนี้ยังไม่ได้รับผลอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสถาบันนิติเวช ส่วนผลการตรวจสอบร่างกายได้รับมาหมดแล้ว ซึ่งการตรวจสอบการเสียชีวิตของน้องเมยนั้นที่มีความขัดแย้งกันจะปล่อยให้เรื่องของแพทย์ที่จะพิสูจน์ความจริงกันต่อไป\" น.ส.สุพิชากล่าวและว่า ส่วนปีใหม่ปีนี้คงเหงา เพราะปกติหากอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาจะไปเที่ยวเขาใหญ่กันทุกปี ปีนี้ขาดน้องเมยคงไม่ได้เดินทางไปพักผ่อนอีกแล้ว


นายพิเชษฐ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ทางครอบครัวรับเงินมาแล้ว จึงทำให้เรื่องเงียบนั้น ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่เคยคิดเลยเกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่อยากให้หาคนทำผิด และชี้แจงเรื่องจริงให้ครอบครัวเข้าใจมากกว่า ซึ่งคนตายถูกกล่าวหามากมายทั้งมีโรคประจำตัว ไม่ตั้งใจเรียน และถูกบังคับให้มาเรียนเรื่องนี้ตนรู้เรื่องดี ไม่เป็นจริงตามที่กล่าวกัน แต่อยากจะเล่าอีกครั้งในวันที่เกิดเหตุ 23 สิงหาคม ได้มีการธำรงวินัยน้องเมย หรือเรียกกันว่าแดก รุ่นพี่สั่งลงโทษไปแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นได้มีการสอบถามว่า อ่านหนังสือหรือยังเพราะเป็นช่วงใกล้สอบ เมื่อบอกว่ายังไม่ได้อ่านหนังสือจึงได้ปล่อยให้ไปอ่านหนังสือ หลังจากนั้น 4 ทุ่มแดกกันต่อไปอีกไม่รู้นานเท่าไหร่ มารู้อีกทีอยู่โรงพยาบาล จปร. หลังจากน้องเมยฟื้นขึ้นมา จึงได้ไปพบ ผบ.กองพัน 2 แจ้งว่า เมื่อลูกชายฟื้นแล้วไม่ต้องลงโทษรุ่นพี่ที่ถูกพักการเป็นรุ่นพี่ และหัก 30 คะแนน แต่เหตุการณ์น่าจะดีขึ้น หลังจากนั้นก็เล่นกันไม่เลิก จนต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง เสมือนเป็นที่หลบภัย ลูกใคร ใครก็ห่วง เมื่อลูกชายมาประสบเหตุอย่างนี้รับไม่ได้ คงจะต้องเดินหน้าหาความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด