รถก้าวคนละก้าวชนรถกระบะส่งน้ำดื่ม มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย

เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 27 ธ.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจ (ปู่อินทร์) แม่สาย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนถนนพหลโยธินพื้นที่บ้านโป่ง ต.โป่งงาม อ.แม่สาย ห่างจากชายแดนด้าน อ.แม่สาย ประมาณ 10 กิโลเมตร จึงไปตรวจสอบพบรถกระบะส่งน้ำดื่ม สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81-1421 เชียงราย ถูกรถตู้ของโครงการก้าวคนละก้าว ที่มีโลโก้และข้อความรับบริจาคเพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ชนเข้าที่ด้านท้าย จนด้านหน้าของรถยนต์ตู้พังเสียหาย โดยรถเสียหลักจอดอยู่กลางถนน ในรถมีคนขับและคนโดยสารไปด้วยรวม 2 คน โดยได้รับบาดเจ็บที่ขา 1 คน ส่วนอีกคนปลอดภัยขณะที่รถยนต์ส่งน้ำไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายและรถเสียหายเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลแม่สาย และเก็บข้อมูลหลักฐานรวมทั้งนำรถส่ง สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านตูน บอดี้สแลม ยังไม่มีการเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่อย่างใด โดยทีมงานเกือบทุกคนได้ทยอยเดินทางออกจากโรงแรมเวียงอินทร์ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย พร้อมด้วยรถยนต์ของโครงการอีกหลายคันได้ไปส่งทีมงานที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายและได้ขับกลับ โดยทีมงานที่เดินทางกลับทางเครื่องบินได้เดินทางออกไปในเวลาประมาณ 16.45 น.แล้ว ซึ่งมีทั้ง “พี่ป็อก” นายอิทธิพล สมุทรทอง ส.อ.สุพิศ จันทรัตน์ ที่ได้ร่วมวิ่งคู่กับตูน บอดี้สแลม มาตั้งแต่ อ.เบตง จ.ยะลา ไปจนถึงปลายทาง อ.แม่สาย รวมถึงแพทย์หญิงสมิตดา สังขะโพธิ์ หรือหมอเมย์ที่ดูแลสุขภาพให้ด้วย

แพทย์หญิงสมิตตา กล่าวว่าสุขภาพของตูน บอดี้สแลม ยังคงดีอยู่โดยพบว่าไม่ได้บาดเจ็บมากนัก ส่วนอาการปวดเมื่อยนั้นก็ถือเป็นเรื่องปกติของคนที่วิ่งมาในระยะทางไกลๆ ส่วนเรื่องของกาศที่ จ.เชียงราย ที่หนาวเย็นนั้นก็คงจะต้องปรับตัว ขณะเดียวกันการที่ตูน บอดี้สแลม จะกลับมาวิ่งระยะทางไกลได้อีกหรือไม่นั้นคงไม่สามารถบอกได้ เพราะก็ต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน โดยกรณีของตูน บอดี้สแลม นั้นคงต้องตรวจร่างกายอีกครั้งก่อน

ด้านนายอิทธิพล กล่าวว่าตูน บอดี้สแลม ขอพักต่อที่ จ.เชียงราย อีกราว 2-3 วันโดยไม่ทราบสาเหตุแต่เท่าที่ได้ดูสภาพของตูนแล้วพบว่าหลังการวิ่งครั้งนี้แล้วสุขภาพยังดีมากและไม่มีความผิดปกติ โดยวันก่อนที่จะไปทำพิธีบายศรีสู่ขวัญที่ไร่เชิญตะวัน ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ยังมีการนัดหมายกันว่าจะวิ่งไปโดยตรวจเส้นทางไกล 31 กิโลเมตร แต่เมื่อถึงวันจัดงานก็พากันวิ่งไม่ไหวแต่ก็ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บแต่เกิดจากการสะสมอันเกิดจากการที่วิ่งมาไกลแล้วหยุดวิ่งกระทันหันเท่านั้น

“จากการวิ่งกับตูนพบพลังบวกของคนมีมากเป็นพลังที่ส่งต่อ คนที่ยื่นเงิน 1 ล้านบาทข้างถนนโดยที่ไม่ได้ต้องการอะไรเลยมาถึงลงจากรถเปิดประตูพูดไปขนลุกไป เปิดประตูเอาเงินทั้งปึ้งมายื่นให้โดยที่ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้นเลย พี่ตูนยังเรียกด้วยซ้ำเลยครับว่ามาถ่ายรูปกันนะครับแล้วพบแบบนี้ แสนหนึ่งนี่กลายเป็นเรื่องปกติเลยแสดงให้เห็นว่าพลังคนไทยและการคิดทางบวกของคนไทยสามารถช่วยผู้คนได้มากและคนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้”นายอิทธิพล กล่าว