พ่อหมอปอร้องประหาร 'เก่ง' วอน ตร.ตามเงิน7แสน ทอง10บาท

พ่อหมอปอร้องประหาร 'เก่ง' วอน ตร.ตามเงิน7แสน ทอง10บาท

“พ่อหมอปอ” เรียกร้องประหาร “เก่ง” วอน ตร.ตามเงิน 7 แสน ทอง 10 บาทให้ด้วย เชื่อ “กิ๊ก” มีส่วนรู้เห็น เพราะขับรถรับส่งทั้งก่อน และหลังเกิดเหตุ อยากให้ดำเนินคดีด้วย

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 21 ธ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 20 ต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ นายเชาว์ ครัวจตุรัส อายุ 55 ปี บิดาของ น.ส.นนทิญา ครัวจตุรัส หรือ “หมอปอ” เจ้าหน้าที่ทันตสาธารณสุข รพ.สต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ที่ถูกว่าที่เจ้าบ่าวคือ นายรณชัย ปานชาติ หรือ “เก่ง” อายุ 26 ปี ใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.60 ญาติๆ ของ น.ส.นนทิญา กำลังช่วยกันประกอบอาหารเพื่อเลี้ยงแขกที่จะมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ น.ส.นนทิญา เป็นคืนที่สอง หลังจากนำศพมาจาก รพ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเย็นวันที่ 20 ธ.ค.60 เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก

นายเชาว์ เปิดเผยหน้าโลงศพของบุตรสาวว่า ครอบครัวของตนรู้จักนายเก่งมา 6-7 ปี ตั้งแต่นายเก่งและน้องปอยังเป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน ไม่เคยคิดมาก่อนว่านายเก่งจะฆ่าลูกสาวของตน เพราะทุกเสาร์-อาทิตย์ นายเก่งจะมาหาลูกสาวที่บ้าน และมีนิสัยดี พูดจาอ่อนน้อม จนเมื่อต้นปี 2560 นายเก่งพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ โดยขอหมั้นด้วยทองคำ 10 บาทเอาไว้ก่อน และมีกำหนดจะแต่งงานกับบุตรสาวในวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.60 นี้

นายเชาว์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนที่บุตรสาวจะถูกฆ่า เคยโทร.มาเล่าปัญหาให้ฟังว่าพบนายเก่งแอบไปมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมงาน ครอบครัวจึงรู้ว่าบุตรสาวกำลังทุกข์ใจจริงๆ เพราะถ้าไม่มีปัญหาหนักบุตรสาวมักไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง แต่นายเก่งยังยืนยันว่าจะแต่งงานกับบุตรสาว เพื่อพิสูจน์ว่านายเก่งเลือกบุตรสาวของตน แต่ไม่เคยคิดว่านายเก่งจะฆ่าบุตรสาวของตนก่อนถึงวันแต่งงานไม่กี่วันเท่านั้น

“ญาติๆ กำหนดจะจัดงานรดน้ำสังข์ให้เก่งกับน้องปอที่บ้านในช่วงเช้า แล้วจัดงานฉลองแต่งงานที่สนามกีฬาโรงเรียนน้ำลอดน้อย โดยจัดเตรียมทุกอย่างไว้เกือบหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องเปลี่ยนจากงานแต่งงานมาเป็นงานเผาศพลูกสาวแทน เพราะเราจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลไปจนถึงคืนวันที่ 23 ธ.ค.60 แล้วจัดงานฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.60 ที่เมรุวัดถ้ำฤๅษี ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร ในเวลา 13.00 น.” นายเชาว์ กล่าว

นายเชาว์ กล่าวถึงเงินสดจำนวน 7 แสนบาท และทองคำ 10 บาท ที่บุตรสาวเตรียมใช้จัดงานแต่งงาน และถูกเบิกจาก ธ.กรุงไทย และ ธ.ออมสิน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.60 ก่อนบุตรสาวเสียชีวิตว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เพราะบัญชีสูญหาย ยังหาไม่พบ จึงอยากตำรวจช่วยสืบสวนด้วยว่าเงินทั้งหมดและทองคำไปอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องคดีต้องขอขอบคุณตำรวจทุกคนที่ช่วยกันคลี่คลายในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนที่กำหนดไว้ 3 วัน และญาติๆ อยากให้ลงโทษนายเก่งจนถึงที่สุดด้วยการประหารชีวิตให้ตายตกไปตามบุตรสาว

“เรื่องแฟนใหม่ของนายเก่ง ครอบครัวทราบจากน้องปอได้ประมาณ 3 เดือน เพราะลูกสาวโทร.มาเล่าให้ฟัง และมั่นใจว่าแฟนใหม่ของนายเก่งต้องมีส่วนรู้เห็นในการฆ่าน้องปอด้วย เพราะในวันเกิดเหตุทำหน้าที่ขับรถรับ-ส่งนายเก่งทั้งก่อนและหลังก่อคดี ดังนั้น จึงอยากให้แฟนใหม่ของนายเก่งถูกดำเนินคดีด้วย” นายเชาว์ กล่าว

ด้าน นายสำราญ แก้วใหญ่ อายุ 58 ปี ชาวบุรีรัมย์ พี่ชายของ นางสมศรี ครัวจตุรัส อายุ 51 ปี มารดาของน้องปอ เปิดเผยว่า ตนเป็นคนบ้านเดียวกับครอบครัวของนายเก่ง ซึ่งนายเก่งมีบิดามารดาชื่อ นายวินัย ปานชาติ และ นางยุพเยาว์ ปานชาติ อยู่หมู่บ้านเทพพัฒนา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ก่อนหน้านี้เคยโทร.คุยกับครอบครัวของน้องปอตลอด แต่หลังเกิดเหตุนายวินัย และ นางยุพเยาว์ ไม่เคยโทร.มาสอบถามเพื่อแสดงความเสียใจ และไม่ทราบว่าทั้งสองคนจะมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพหลานสาวของตนหรือไม่