'Kooup' หาคู่แท้ออนไลน์

กรุงเทพธุรกิจ จะชวนไปคุยกับ “ Kooup” (คู่อัพ) แอพพลิเคชั่นหาคู่/หาแฟน ที่เคลมว่าขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งของไทย (มีผู้ใช้วันละ 2-3 หมื่นคน) ด้วยสโลแกน “หาคู่จริงจัง หาแฟนจริงใจ นัดเดทออนไลน์ตามสเปคในฝัน”

ขึ้นชื่อเป็นธุรกิจหาคู่ออนไลน์ แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่มักมองว่าเป็นเรื่อง “หลอกลวง” เรื่องของการ “ต้มตุ๋น” ไม่มีทางได้เจอรักแท้ แต่ “อาวุธ สรรพัชญา” ซีอีโอ คู่อัพ ยืนยันว่าคงเหมารวมทั้งหมดไม่ได้เพราะตัวเขาเองยังได้เจอกับภรรยาที่ตรงตามสเป็คด้วยการหาคู่ผ่านช่องทางนี้มาแล้ว

“แม้ในปัจจุบันคนไทยมีโอกาสเจอคนถูกใจได้ง่าย ทั้งในวงเพื่อนหรือวงญาติ แต่ถ้าใช้แอพของเรา ผมมองว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสแบบทวีคูณทำให้ได้เจอคนที่ถูกใจและเหมาะสมจริง ๆ”

คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือเทรนด์แห่งอนาคต ไลฟ์สไตล์ของคนไม่ว่าจะกิน เที่ยว ดื่ม ฯลฯแม้กระทั่งการมีคู่ครองกำลังเคลื่อนย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์

"ย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีก่อน ตอนนั้นผมอยากหาแฟนและมองว่าตัวเองเป็นคนโสดที่พร้อม แต่ไม่ค่อยได้เจอใคร เพราะทำงานอยู่ชานเมืองตอนเช้าขับรถไปทำงาน กว่าจะเลิกงานก็ 3-4 ทุ่มแล้ว วันเสาร์อาทิตย์ก็เหนื่อยไม่อยากออกไปไหน เพื่อน ๆก็แต่งงานกันหมดเขาก็แนะนำให้ไปหาบริษัทจัดหาคู่ แต่ก็ติดค่าบริการแพงเป็นหลักหมื่นแถมไม่มีการประกันผลด้วย ผมเลยลองเสิร์ซเว็บไซต์หาคู่ซึ่งมีค่าบริการหลักร้อยพอจ่ายได้แต่ก็พบว่าส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีการคัดกรอง มีการหลอกลวงเยอะ มีมิจฉาชีพเยอะ"

นำมาสู่การคิดทำเว็บไซต์หาคู่ขึ้นเอง นั่นคือ “KOO 25 UP” (คู่ 25 อัพ เวลานี้ยังคงแอคทีฟอยู่) มีคอนเซ็ปต์ให้ผู้สมัครจะต้องมีอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป มีความพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ทำงานแล้ว และต้องการมีชีวิตคู่อย่างจริงจัง

"ตัวผมเองก็ประกาศหาคู่ให้ตัวเองด้วยซึ่งก็ได้พบคนที่ใช่จริง ๆ และจำได้ว่าไม่ถึงครึ่งปีเว็บก็ไปติดที่หน้าหนึ่งของกูเกิลแล้ว โดยที่จ่ายค่าโฆษณาให้กูเกิลนิดหน่อยวันละ 200-300บาทเท่านั้น"

เหตุผลอาจเป็นเพราะเว็บคู่ 25 อัพไม่ได้คิดค่าใช้จ่าย รวมทั้งคนที่เข้ามาเล่นส่วนใหญ่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าระบบเล่นง่าย ไม่ซับซ้อน มีรูปภาพของคนสมัครที่ชัดเจน

"ประการสำคัญเรามีการคัดกรอง ถ้าเป็นเด็ก ๆส่งภาพที่แก้ผ้าแก้ผ่อน โชว์กล้าม ลายสักมาเราจะคัดออกเลย คนสมัครมาร้อยคนจะมีการคัดออกกว่าครึ่ง เราจะไม่เน้นปริมาณ แต่เน้นคุณภาพ เรากำหนดคนที่มาสมัครว่าต้องเรียนจบแล้ว มีหน้าที่การงาน พร้อมจะมีแฟน พร้อมแต่ง ไม่ได้แค่มาหากุ๊ก หากิ๊ก"

ที่เว็บไซต์ส่วนใหญ่ต้องล่มสลายไปไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งมาจากการปล่อยให้คนเข้ามาหากิ๊ก คู่กิน คู่นอน ที่สุดคนจะมีการบอกต่อกันปากต่อปากว่าเว็บไหนดี ไม่ดีอาวุธเล่าต่อว่าเวลาผ่านไปราว 4- 5 ปี เว็บไซต์เขาก็เริ่มมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆรายได้ก็เริ่มไหลเข้ามาเรื่อย ๆเช่นเดียวกัน จากที่ทำเป็นไซต์ไลน์คู่ขนานกับงานประจำ เขาก็คุยกับภรรยาซึ่งเรียนจบมีความเชี่ยวชาญทางด้านไอทีว่าควรลาออกจากงานมาทำอย่างจริงจัง

ในปีที่ผ่านมาพวกเขาก็เปิดบริษัทชื่อว่า Fugang (ฟุกัง) ในภาษาจีนแปลว่าพลังแห่งความโชคดีและในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน “ดรล ตันเจริญ” ปัจจุบันเป็นซีทีโอของคู่อัพ (ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง วิศวะคอมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ซึ่งเป็นญาติของอาวุธและได้มาหารือเพราะทำแอพหาคู่มาถึง 2 แอพแล้วแต่กลับไม่สำเร็จเท่าที่ควร อาวุธก็เลยชวนมาทำด้วยกันและพัฒนาจนเป็นแอพ Kooup

พวกเขาบอกว่าเป้าหมายตอนเริ่มต้น ก็เพียงแค่ต้องการให้คู่อัพขึ้นอันดับท้อบทรีหรือท้อบไฟว์ของเมืองไทย ก็น่าจะมีรายได้ที่พออยู่พอกิน และมองว่าความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับจุดเด่นซึ่งที่พวกเขาต้องการสร้างให้ชัดเจนมีอยู่ 3 ข้อ ดังนี้หนึ่ง ความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าการหาคู่ออนไลน์พึ่งพาได้จริงดรลบอกว่า ขณะที่แอพอื่น ๆสามารถสมัครใช้งานได้ง่ายเพียงแค่ใส่อีเมลและพาสเวิร์ดแบบมั่ว ๆจึงเป็นช่องให้พวกมิจฉาชีพไปเปิดแอคเคาท์ไว้เป็นสิบ ๆเพื่อเอาไว้ใช้หลอกลวง

“แต่ของเราให้เอาแอคเคาท์เฟสบุ๊คมาสมัครทำให้ยากหน่อย อย่างน้อยถ้าเขามีเฟสบุ๊คก็มีตัวตนอยู่บ้าง แม้จะมีคนมาสมัครน้อยลง แต่เราจะได้คนที่ตั้งใจมาเล่นจริงๆ ”

จากนั้นจะมีการเช็คด้วยกูเกิลอิมเมจ เพราะคนที่สมัครต้องมีการอัพโหลดรูป ซึ่งต้องเป็นรูปของตัวเองไม่ใช่รูปดาราหรือรูปของคนอื่น  รวมถึงมีการเช็คไอพีว่าตรงกับสถานที่หรือประเทศที่แจ้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่ก็จะบล็อคทันที

“พอเข้ามาในแอพเรา คนต้องรู้สึกเชื่อมั่น ปลอดภัย การค้นหาคู่ออนไลน์ ผมมองว่าเรื่องความปลอดภัยสำคัญที่สุด เราเองยอมรับว่าอาจยังไม่ถึง 100% แต่ก็เชื่อว่าทำได้ 80% แล้วและกำลังทำไปเรื่อย ๆ” อาวุธกล่าว

สอง ต้องเล่นง่าย เล่นสนุก คล้ายการเล่นเกม แอพจะมีระบบทำลายความอาย มีระบบช่วยจีบเพื่อช่วยให้คนเล่นไม่เคอะเขิน และเรื่องสุดท้ายต้องสอดคล้องกับจริตของคนไทย (รวมถึงคนในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่เชื่อในเรื่องดวงและชอบดูสถิติต่าง ๆ)

โดยแอพอัพคู่จะมีหลักโหราศาสตร์ทั้งไทย จีนและสากล ให้สามารถผูกดวงกับคนที่ถูกใจว่าเกิดวันไหน ราศีอะไร ปีนักษัตรอะไร มีความสมพงศ์กันหรือไม่  ทั้งยังมีเรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องการศึกษา อายุ สัดส่วน อาชีพเพื่อนำมาเทียบกันและคำนวนออกมาว่าจะมีโอกาสจีบติด หรือจะเข้ากันได้ดีแค่ไหน 

อาวุธบอกว่า แอพอัพคู่ยังมี “ระบบสเป็คในฝัน” ให้ฟิกซ์ได้เลือกได้หมดว่าสนใจคนที่อยู่ภาคใต้หรือเหนือ คือที่ไหนก็ได้ทั่วโลก หรือถ้าชอบอาชีพหมอก็เลือกหมอ ชอบพยาบาลก็เลือกพยาบาล หรือชอบครู  แม้กระทั่งระดับเงินเดือนและการศึกษาตลอดจนผิวพรรณว่าเป็นแบบใด สรุปในภาพรวมก็คือ ผู้สมัครจะได้ทั้งความสนุกและคู่ที่ตรงสเป็คจริง ๆ

"ภายในเวลาแค่ 2-3 เดือนที่เปิดตัว แอพคู่อัพก็โตเร็วมากจนกลายเป็นที่หนึ่งของไทย ซึ่งโมเดลธุรกิจเราจะให้ใช้แอพฟรี แต่ถ้าอยากทำอะไรที่เป็นพิเศษมากขึ้นก็จ่ายให้เราบ้าง เช่นอยากได้สติ๊กเกอร์แบบพิเศษ หรือถ้าอยากคุยกับคนหลายคนเกินที่เรากำหนดไว้า แอพของเราจะทำหน้าที่ช่วยให้คนมีโอกาสได้พบเจอ มีโอกาสได้คุยกันและไปออกเดทกัน แต่หลังจากนั้นเราจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"

ส่วนแผนในการเติบโต เวลานี้คู่อัพพร้อมแล้วสำหรับการระดมทุนในรอบSeed (รอบแรกเขาได้เงินจำนวน 2 ล้านบาทจากญาติมาตั้งต้นธุรกิจ) เพราะต้องการจะขยายตลาดชิงที่หนึ่งในตลาดภูมิภาคอาเซียน (เวลานี้ขยายไปลาว กัมพูชาและเวียดนามแล้ว )

"ที่ผ่านมาเรายังไม่เปิดตัวกับวีซีมาก เพราะอยากให้เห็นศักยภาพของเราก่อน ว่าเราทำได้จริงภายใต้งบประมาณที่จำกัด อยากบอกว่าตอนนี้แอพเราเป็นของคนไทย 100% และน่าจะเหลือแค่แอพเดียวด้วย จริง ๆแล้วมันน่าจะเป็นวาระแห่งชาติด้วยซ้ำ เพราะถ้าเราไม่ทำในไม่ช้าจะมีแพลตฟอร์มจากต่างประเทศเข้ามา ถามว่าเงินค่าพ่อสื่อแม่สื่อที่คนไทยจ่ายไปจะอยู่ที่ไหน ก็คงไม่ได้อยู่ในเมืองไทย" อาวุธกล่าวทิ้งท้าย