ยูเอ็นนัดประชุมฉุกเฉินปัด“ทรัมป์”รับรองเยรูซาเลม

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของยูเอ็นจีเอ เป็นข้อเรียกร้องจากตุรกีและเยเมน ที่ร้องขอให้มีการประชุมฉุกเฉินของ193 ประเทศสมาชิกในยูเอ็นจีเอโดยเรียกร้องในนามของกลุ่มประเทศอาหรับและองค์การความร่วมมืออิสลาม(โอไอซี)

เมื่อวันจันทร์(18ธ.ค.)ที่ผ่านมา สหรัฐใช้สิทธิ์วีโต้ร่างมติที่เน้นย้ำว่าการตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับสถานะของเยรูซาเลมไม่มีผลทางกฎหมายและต้องเพิกถอน

ทั้งนี้ อียิปต์เป็นผู้ผลักดันร่างดังกล่าว ซึ่งมี14 ชาติสมาชิกยกมือสนับสนุน โดยยืนยันว่าปัญหาเกี่ยวกับเยรูซาเลมเป็นประเด็นที่ต้องคลี่คลายผ่านการเจรจาระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับสถานะของเยรูซาเลมเมื่อเร็วๆนี้โดยไม่ได้พาดพิงถึงความเคลื่อนไหวของนายทรัมป์โดยตรง

นายริยาด อัล-มาลิกี รัฐมนตรีต่างประเทศปาเลสไตน์ กล่าวว่า ได้พยายามผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมยูเอ็นจีเอ เพื่อให้สมาชิกทั้ง 193 รัฐร่วมกันตัดสิน แม้มติของยูเอ็นจีเอไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมาย เช่นเดียวกับมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่ก็ถือว่ามีน้ำหนักในทางการเมืองระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีประเทศใดที่มีอำนาจวีโต้ในยูเอ็นจีเอ แตกต่างจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่สหรัฐ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส และรัสเซีย เป็นสมาชิกถาวร ซึ่งมีสิทธิ์ขัดขวางมติใดๆก็ได้