สั่ง9หมื่นตร.ตั้งจุดตรวจทั่วปท. เมาเเล้วขับจับดำเนินคดีทันที

สั่ง9หมื่นตร.ตั้งจุดตรวจทั่วปท. เมาเเล้วขับจับดำเนินคดีทันที

"เฉลิมเกียรติ" กำหนดมาตรการรปภ.ทรัพย์สินปชช. สั่งตำรวจ9หมื่นนายตั้งจุดตรวจทั่วประเทศ ลั่นเมาเเล้วขับจับดำเนินคดีทันที

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ธันวาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ด้านการป้องกันปราบปราบอาชญากรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ด้านกฎหมายและคดี พล.ต.ท.พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประชุมวิดีโอคอนเฟอเร็นซ์ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เพื่อเตรียมความพร้อมการป้องกันอาชญากรรมในช่วงคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2561

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมมอบนโยบาย กำชับฝ่ายปฏิบัติแต่ละหน่วย ทั้งเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ตามนโยบายของรัฐบาล การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตามจังหวัดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อสร้างความมั่นใจ มีการนำมาตรการคัดกรองบุคคลเข้าออก ตรวจสอบประวัติอาชญากรในจุดที่จัดงานใหญ่ เน้นการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดในช่วงเทศกาลด้วย นอกจากนี้ตำรวจจะกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปิดเปิดสถานบริการ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ โคมลอย ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อประชาชน หากใครฝ่าฝืนจะมีการจับกุมดำเนินคดีทันที อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งสายด่วน 191 ทั่วประเทศ หรือแจ้งผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่น police i tert u ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการมาทุกปี สำหรับโครงการฝากบ้านกับตำรวจหรือประชารัฐร่วมใจ ปีที่ผ่านมามีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 7,000 หลัง ในเรื่องนี้ตำรวจมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น แอพพลิเคชั่น LINE เพื่อติดต่อสื่อสารกับเจ้าของบ้านได้โดยตรงและรวดเร็ว

ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ตำรวจจะนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการบังคับใช้กฎหมาย การกวดขันวินัยจราจร ซึ่งมีทั้งเครื่องตรวจจับความเร็ว เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ กระจายอยู่ทุกโรงพักทั่วประเทศจำนวนกว่า 5 พันเครื่อง พร้อมกับตั้งจุดตรวจ จุดสกัดพื้นที่มีความสุ่มเสี่ยง ตรวจจับกรณีการเมาแล้วขับ การขับรถย้อนศร ฝ่าฝืนสัญญานไฟจราจร ง่วงแล้วขับ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงถนน สภาพทางกายภาพ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่ โดยตำรวจทางหลวงจะร่วมกับตำรวจพื้นที่ เตรียมช่องทางพิเศษ ทางเลี่ยง ทางลัด ไว้ให้ประชาชน เพื่อให้การจราจรคล่องตัว

ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กวดขั้นจราจรทั้งทางบก ทางน้ำ ในส่วนนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และรัฐมตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้ประสานงานกับภาคเอกชนแก้ปัญหาลดความเสี่ยงช่วงเทศกาล

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า สถิติย้อนหลังการเกิดอุบัติเหตุ3ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2558 ถึง 2560 พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 490 ครั้ง บาดเจ็บ 512 คน และเสียชีวิตวันละ 57 ราย ปัจจุบันจากการสำรวจทั่วประเทศ พบว่ามีจุดเสี่ยงกว่า2 พันจุด ซึ่งสำนักงานตำรวจวางกำลังไว้ตามจุดต่าง ทั้งอำนวยสะดวกด้านจราจร และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ใช้กำลังในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้นกว่า 92,746 นาย จำนวนนี้ยังไม่ได้รวมอาสาสมัครและภาคีเครือข่ายที่มีอีกจำนวนมาก