'คะน้า'เปิดใจ ถูกลือเป็นนางร้ายปากเจ่อขายบริการ

กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เมื่อมีอักษรระบุว่านางร้ายปากเจ๋อช่องมากสี ผมยาว รับจ๊อบเสริมขายบริการ  ตอนมาเซ็นสัญญาช่องใหม่ๆ ไม่มีข้าวจะกินทำตัวน่าสงสาร แต่พอได้เริ่มเล่นละครก็ทำตัวไฮไซออกรถยุโรปหรู ใส่เสื้อผ้า ใช้ของแบรนด์เนม อยากมีเพื่อนเป็นไฮโซ หลังๆ มีเรื่องฉาวดันมีรูปไปโผล่ในเว็บขายบริการ แซ่บกว่านั้น ในกลุ่มเพื่อนกันเองก็เคยซื้อบริการนางร้ายคนนี้มาแล้ว ในอักษรย่อนี้ยังระบุว่า ดาราสาวคนนี้อยู่แก๊งค์เดียวกับนักร้องสั้นเสมอหู

จากการสืบเสาะของชาวโซเชียลก็มีโยงว่าดาราสาวคนดังกล่าวคือ "คะน้า" ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ ดาราสาวของช่อง 7 สี ล่าสุดดาราสาวจึงได้ตั้งโต๊ะแถลงในรายการ "สนามข่าวบันเทิง" ที่ช่อง 7 สีในเรื่องนี้

"วันนี้อยากจะเคลียร์ข่าวที่ถูกพาดพิงค่อนข้างที่จะแรงเลย ขอพูดตรงนี้และจบที่วันนี้เลยว่าไม่จริง  ไม่ใช่เรา เราไม่ได้ทำ ตอนแรกไม่ได้รู้เรื่อง จนมีคนโทรมาบอก ก็ตกใจ ก็งง ตอนแรกยอมรับว่าช็อกนิดหนึ่ง แล้วก็มาตั้งสติ แล้วก็ไปดูรายละเอียดของข่าว ก็มันไม่ใช่เรา แล้วมาค่อยๆ คิดว่าจะทำยังไงต่อ แว้บแรกเป็นห่วงคุณแม่ว่าเขาจะยังไงมากกว่า คือเรื่องอักษรย่อ หนูไม่รู้เรื่องเลย ผ่านมา 2-3 วันไม่รู้เรื่องเลยว่าเป็นใคร ไม่ได้ตามข่าว มารู้ตอนที่พี่เตย (ใบเตย อาร์สยาม) สัมภาษณ์เขาเอ่ยชื่อเราแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นเรา"

ในข่าวระบุว่าพอเข้าวงการมา เล่นละครเรื่องแรกก็มีรถเบนซ์ป้ายแดงขับแล้ว

"อันนั้นหนูไม่รู้เรื่องเลย คือหนูมีรถนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ ตั้งชี้แจงก่อนว่าหนูได้ช่วยงานแฟนเก่า คนใกล้ตัวจะรู้ว่าหนูกับแฟนเก่า ทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว และรถยุโรปที่หนูมีก็มีตั้งแต่ก่อนเข้าวงการแล้ว ทำด้วยกัน หนูก็เก็บหอมรอมริบมาปัจจุบันหลังจากเลิกกับแฟนเก่า หนูก็ผ่อนรถคันนี้เองมาตลอดจนถึงปัจจุบัน แล้วอย่างที่บอกว่ามีรถหลายคัน หนูก็มีแค่คันเดียว รถยุโรปคันนั้น ในข่าวที่ระบุว่ามีคันอื่น อาจจะเป็นรถของแฟนหรือเปล่า"

ในข่าวระบุว่ารูป "คะน้า" ไปขึ้นอยู่ในเว็บขายบริการ

"หนูไม่รู้ด้วยว่าจะค้นหายังไงด้วย ไม่รู้ว่าอยู่เว็บไหน" 

คุณแม่ว่ายังไงบ้าง

"คุณแม่ก็เครียดนอนไม่หลับ ช่วงที่มีข่าว"

ข่าวระบุว่ามีคนเคยซื้อบริการจากเราด้วย

"เขาแอบอ้าง แล้วคือเขาเป็นใคร"

เรารู้สึกยังไงที่มีข่าวออกมาแบบนี้

"อย่างที่บอกว่าข่าวนี้มันรุนแรงมากกับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง กับคนที่เขาไม่รู้จักเราเขาก็มองไม่ดีอยู่แล้วหรือแม้กระทั่งกับครอบครัวเรา จริงๆ ตอนแรกหนูไม่คิดว่าหนูจะแถลงข่าว หนูก็ว่าเงียบๆ ไป หนูชิลๆ อยู่แล้ว คิดว่าเดี๋ยวก็หายไป แต่กระแสมันแรงขึ้น แม่หนูก็เครียดขึ้น เพราะคนเป็นแม่หาว่าลูกขายตัวเหรอ เขาจะรู้สึกยังไง หนูก็อยากจะเคลียร์เพื่อศักดิ์ศรีของแม่หนู อยากออกมาพูดเพื่อแม่หนู  หนูเลยออกมาเคลียร์ว่าเราไม่ได้ทำนะ"

ในข่าวลือระบุว่า ไม่มีผลงานละครแต่ใช้ของหรูหรา

"คนเราไม่ได้ทำอาชีพแค่อาชีพเดียว ถูกป่ะ หนูก็มีธุรกิจอื่นๆ ด้วย หนูทำทั้งจิวเวอร์รี่ขาย หนูมีทั้งครีมขาย ซึ่งครีมของหนูขายในแคทตาล็อกฟรายเดย์ ซึ่งสามารถไปตรวจสอบและก็จะเห็นได้ และคือก่อนหน้านั้นอย่างที่บอกว่าหนูเคยทำธุรกิจกับแฟน คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราก็เก็บหอมรอมริบมา ขอไม่กล่าวถึงว่าแฟนเป็นใคร แต่คือตอนที่คบกันเขาก็ซื้อของแบรนด์เนมให้ในโอกาสพิเศษ พวกของแพงๆ ซึ่งบางอย่างหนูซื้อเอง ก็เป็นพวกของมือสอง ก็มีไม่กี่ชิ้นหรอก ถ้าจะเห็นหนูก็ไม่ได้มีของแบรนด์เนมเยอะขนาดนั้น และก็ไม่ได้ใช้ชีวิตหรูหรา อู้ฟู้เลย ถ้าดูจากในอินสตาแกรมก็จะรู้ว่าหนูไม่ได้เป็นแบบที่กินของแพงใช้ของแพงเลย หนูอ่านในข่าวบอกว่าหนูคบเพื่อนไฮโซ หนูนั่นนี่ จะเห็นว่าหนูไม่มีเลย หนูก็งงว่าไฮโซอะไร เพื่อนหนูก็ยังแซวเลย "

กลัวไหมว่าข่าวที่ออกมามันกระทบต่องานละคร เพราะว่าภาพลักษณ์มันอาจจะดูไม่ดี

"ก็กลัวเหมือนกัน แต่ว่าหนูได้มีโอกาสคุยกับผู้ใหญ่ทางช่อง ซึ่งก็ต้องขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องก็เข้าใจ เพราะว่าผู้ใหญ่ก็ค่อนข้างเชื่อเราไม่ได้เชื่อไปตามข่าว"

จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนที่ปล่อยข่าวนี้ไหม

"หลังจากวันนี้ที่เราเคลียร์แล้ว แล้วถ้าคนที่ยังปล่อยข่าวออกมา ทำให้เราเสียชื่อ ยังไม่หยุดที่จะขุดคุ้ย และยังจะปล่อยข่าวในลักษณะแบบนี้ ทำให้มีข่าวลักษณะแบบนี้ออกมา เราจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"

ยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปตามที่อักษรย่อเขียน

"เราไม่ได้ทำ"

มีระแคะระคายบ้างไหมว่าคนที่ปล่อยข่าวเราเป็นใคร

"ไม่"

ได้คุยกับ "ใบเตย" หรือยัง

"คุยๆ พี่เตยเขาโทรมา เขาเป็นห่วง เขาก็บอกว่าสัมภาษณ์ยังไง เขาก็ให้คำแนะนำ เพราะพี่เตยเขาเป็นคนมีประสบการณ์เนอะ (หัวเราะ) พี่เตยก็บอกว่า ลูกสาวแกต้องมีสตินะ อะไรแบบนี้ พี่เตยก็เป็นห่วง คือจริงๆ หลังจากออกจาผู้จัดการเดียวกัน เราอาจจะไม่ได้เป็นภาพไปแฮงเอ้าท์กันเหมือนเดิม แต่พี่เตยยังเป็นพี่สาวที่หนูเคารพรักเหมือนเดิม และก็ยังเป็นคนที่น่ารักกับหนูเหมือนเดิม ยังเป็นคนที่รักและห่วงกันเหมือนเดิม"

มีท้อบ้างไหม เพราะเขามาในวงการไม่ได้นานก็มีข่าวแรงๆ แบบนี้แล้ว

"ไม่ได้ท้อแบบนั้น ถือว่าเป็นบทเรียนให้เราได้รู้ว่าเราควรที่จะทำตัวยังไงมากกว่า คือหนูไม่ได้มีอารมณ์แบร้องไห้ฟูมฟาย เพราะว่าคนอื่นก็เจอข่าวหนักกว่าเราเยอะแยะ"

ก่อนหน้านี้เคยมีคนเข้ามาแบบมาติดต่อเรา แบบที่เป็นข่าวไหม

"ไม่"

มีคอมเม้นท์อะไรที่รุนแรงกลับมาไหมจากข่าว

"ก็มีบางคนที่คอมเม้นท์สนุกปาก เชื่อไปแล้วและว่าเราไปแล้ว คือคนคอมเม้นท์เป็นหมื่น เราก็งงมากว่าอะไรขนาดนั้น"

ฝากบอกอะไรถึงคนปล่อยข่าวเราบ้าง

"อยากจะฝากว่า .... เชื่อไหมว่าหนูบอกตัวเองว่าหนูจะเลิกเม้าท์คนอื่นเลย (หัวเราะ) พอเจอกับตัวเองแล้ว รู้สึกว่าการโดนเม้าท์ในเรื่องไม่จริงมันเป็นยังไง แล้วก็ฝากถึงคนปล่อยข่าวด้วยว่า นี่ย้ำอีกครั้งว่าถ้ายังไม่หยุดที่จะปล่อยข่าวเสียๆ ถึงเรา ไม่ว่าอะไรก็ตาม ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"