'โตชิบา'ดันไทยฮับแห่งเอเชียดันแบรนด์ขึ้นแท่น‘ท็อปทรี’

'โตชิบา'ดันไทยฮับแห่งเอเชียดันแบรนด์ขึ้นแท่น‘ท็อปทรี’

สมรภูมิเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศไทยและทั่วโลกเต็มไปด้วยผู้เล่นจำนวนมากต่างเปิดเกมรุกช่วงชิงมาร์เก็ตแชร์อย่างดุเดือด ท่ามกลางโอกาสทางการตลาดเปิดรอมหาศาล จากพฤติกรรมการบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ส่งผลต่อความต้องการสินค้าใหม่ๆ ทั้งปัจจัยเสี่ยงและโอกาสธุรกิจ ทำให้ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่น “โตชิบา” วางยุทธศาสตร์ใหม่มุ่งประสานเครือข่ายธุรกิจ ญี่ปุ่น จีน และไทย ดึงจุดแข็งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

โตชิโระ อิชิวาตาริ ประธาน บริษัท โตชิบา ไลฟ์สไตล์ โปรดักส์ แอนด์ เซอร์วิส คอร์ปอ เรชัน (TLSC) ประเทศญี่ปุ่น นำทีมผู้บริหารโตชิบา ประกาศนโยบายและแผนการตลาดเชิงรุกในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยจัดตั้งสำนักงานใหญ่โตชิบา หรือ IHQ (International Head Quarter) ขึ้นในประเทศไทย  จะเปิดตัวเป็นทางการในเดือน ม.ค.2561 

IHQ จะเป็นเซ็นเตอร์ (ฮับ) ในการดูแลและบริหารงานต่างๆ ในภูมิภาค ตลาดหลัก ประกอบด้วย ฮ่องกง, มาเลเซีย, ไทย ลาว กัมพูชา, เวียดนาม, ไต้หวัน และตะวันออกกลาง ซึ่งจะให้ความสำคัญทางด้านการผลิต การตลาด และการขาย เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการในแต่ละภูมิภาค รวมไปถึงการบริหารจัดการต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ มีความรวดเร็วในการผลิต เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด

"ไทยเป็นตลาดยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเอเชีย เป็นครั้งแรกของโตชิบาในการจัดตั้ง IHQ นอกญี่ปุ่น ทำหน้าที่ประสานงานใกล้ชิดทุกตลาดในเอเชียที่เป็นบิ๊กมาร์เก็ตสำหรับโตชิบา การจัดตั้ง

IHQ ยังสอดรับแนวทางของรัฐบาลที่ต้องการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้มีการตั้งสำนักงานอินเตอร์เนชั่นแนลในไทย ตอกย้ำความเชื่อมั่นทางการลงทุนและตลาดไทยที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ"

กลยุทธ์เชิงรุกของโตชิบาครั้งนี้เป็นการขยายผลและต่อยอดเชิงยุทธศาสตร์จากการรวมกันของ TLSC และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน  ไมดาส กรุ๊ป (Midea Group) เมื่อกลางปี 2559 ที่ผ่านมา ในการพัฒนาและขยายฐานธุรกิจรองรับความต้องการของตลาดโลก (Global Market) มากยิ่งขึ้น นอกจากตลาดหลักเอเชียแล้วจะเปิดเกมรุกเข้าสู่ตลาดสหรัฐและยุโรปอีกด้วย 

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาโปรเจคใหม่ร่วมกันกว่า 50 โปรเจค หรือ 50 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะทยอยออกสู่ตลาด ขณะที่อีกกว่า 10 ผลงานได้เริ่มจำหน่ายในตลาดประเทศต่างๆ แล้ว นอกจากนี้มีแผนขยายฐานการผลิตในประเทศต่างๆ นอกจากไทย ที่เป็นหนึ่งในฐานหลัก เพื่อเพิ่มกำลังผลิตรองรับความต้องการของตลาด โดยเฉพาะ ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า 

มาซาอากิ คิมูระ ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ได้วางแผนขยายธุรกิจของโตชิบาให้เติบโตยิ่งขึ้น จากการที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเข้ามา อาทิ ตู้เย็น 1 ประตูสีใหม่ ตู้เย็น 2 ประตูไซส์เล็กลง เครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่ ทีวี หม้อหุงข้าว และไมโครเวฟ เป็นต้น

“บริษัทยังได้จัดทัพทีมผู้บริหารใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการตลาดและการขาย เพื่อรักษาความเป็นแบรนด์ตู้เย็นเบอร์ 1 แบรนด์แอนดรอยด์ ทีวี เบอร์ 1 และมุ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องครัวเบอร์ 1 ภายใน 3 ปี สำหรับการขายตั้งเป้าเติบโต 10%”

ไบรอัน จ้าว รองประธาน กล่าวถึงเป้าหมายของโตชิบาว่า ต้องการก้าวสู่ “Top 3” แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยจะนำองค์ความรู้ ประสบการณ์ และความแข็งแกร่งจากการร่วมมือกันของ 3 ประเทศทั้งด้านชื่อเสียง นวัตกรรม คุณภาพ และประสบการณ์ ยาวนานกว่า 140 ปี ของโตชิบา ประเทศญี่ปุ่น ความได้เปรียบเรื่องทรัพยากรต่างๆ ความรวดเร็วในการซัพพลายสินค้า การทำวิจัยและพัฒนาเพื่อพัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ของไมดาส ประเทศจีน ซึ่งไมดาส นับเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการลงทุนทางด้านวิจัยและพัฒนาสูงกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีศูนย์วิจัย 17 แห่งใน 8 ประเทศทั่วโลก มีนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญกว่า 1 หมื่นคน และเป็นเจ้าของสิ่งประดิษฐ์ และสิทธิบัตรต่างๆกว่า 2.6 หมื่นชิ้น

ไมดาส ยังมีฐานการผลิตในจีน 18 แห่ง และกระจายอยู่ทั่วโลกอีก 15 แห่ง ที่จะช่วยผลิตและซัพพลายสินค้าสำหรับส่งขายทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว และท้ายสุด ประสบการณ์การขาย และการตลาดจากประเทศไทยกว่า 48 ปี ผลักดันให้โตชิบา เป็นแบรนด์ชั้นนำในใจผู้บริโภค

สำหรับนโยบายเชิงกลยุทธ์ เราให้ความสำคัญกับ 3 แกนหลักคือ การสร้างแบรนด์ โดยเน้นการรับรู้ และการสร้างความเชื่อมั่น ลูกค้า เน้นความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก รวมถึงการบริหารจัดการช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและทั่วถึง สินค้า ต้องมีคุณภาพ หลากหลาย และแข่งขันได้

ปี 2561 แผนการตลาดหลัก โฟกัส 3 เรื่อง ได้แก่ สินค้า นอกจากการเพิ่มไลน์สินค้าจะให้ความสำคัญกับการอัพเกรดสินค้าให้มีคุณภาพและทันสมัย  การเป็นผู้นำในสินค้าที่เป็นที่นิยม การสื่อสารการตลาด ตั้งงบสำหรับโฆษณาและส่งเสริมการขาย 12% ของยอดขายเพื่อสร้างการรับรู้ ความเชื่อมั่น นำไปสู่การซื้อสินค้าโตชิบา สำหรับ ช่องทางการจัดจำหน่าย จะรุกการขายผ่านอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคยุค 4.0  ที่ชอบความสะดวกสบาย

 อย่างไรก็ดี สินค้าหลักของโตชิบา เน้นทำตลาด 4 กลุ่ม คือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องครัว บุนยรัตน์ ไตรสิริสมบัติ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่าวเสริมว่า เตรียมปิดตัวสินค้าใหม่จำนวนมาก อาทิ หม้อหุงข้าวรุ่นใหม่ 2 รุ่น ขนาด 1 ลิตร และ 1.8 ลิตร เจาะตลาดแมส ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ไมโครเวฟ 7 รุ่นใหม่ ตั้งแต่ขนาด 20-34 ลิตร รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบทำอาหารและขนมมากขึ้น ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า จะเป็นเบอร์ 1 ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว นอกจากนี้ จะมีการทำตลาดตู้เย็นใหม่ ทั้งตู้เย็น 1 ประตู ซึ่งได้เพิ่มสีสันให้หลากหลายขึ้น การขยายไลน์ตู้เย็น 2 ประตู ขนาดเล็ก รองรับการขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียม รวมทั้งเครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์ เครื่องซักผ้าจับกลุ่มครอบครัวขนาดกลาง เครื่องทำน้ำอุ่น ดีไซน์ทันสมัย

 ฮิโรยูกิ ทาคาเสะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี กล่าวว่า โตชิบาจะรุกทำตลาดแอนดรอยด์ ทีวี มากขึ้น วางเป้าหมายผู้นำตลาด ใน 3 ปี ด้วยส่วนแบ่งไม่ต่ำกว่า 30-40% ของตลาดแอนดรอยด์ ทีวี ที่คาดว่าขณะนี้จะมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 10% ของตลาดทีวีรวม จากปัจจุบันมีสัดส่วน 6% 

“แอนดรอยด์ทีวีจะมาตอบโจทย์ยุค 4.0 เน้นการเชื่อมต่อประสบการณ์ความบันเทิงได้หลากหลาย เหนือกว่าสมาร์ททีวีทั่วไป ทั้งดูหนัง เล่นเกม เชื่อมต่อคอนเทนท์ และฟังก์ชันต่างๆได้ง่ายๆบนทีวีจอยักษ์”