Retail Market Monitor (15 ธ.ค.60)

Retail Market Monitor (15 ธ.ค.60)

ตลาดยังคงโฟกัสในหุ้นขนาดใหญ่

ตลาดโลกแกว่งตัวมีแรงทำกำไรจากอุปสรรคเกี่ยวกับกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ขณะที่ ECB คงดอกเบี้ยนโยบายและไม่ปรับลด QE ถือเป็นปัจจัยบวก อย่างไรก็ตามการที่กระบวนการรัฐสภาของอังกฤษไม่สามารถชนะโหวต (แพ้ 305 ต่อ 309 เสียง) ทำให้นักลงทุนกังวลว่ากระบวนการ Brexit จะไม่ราบรื่น สำหรับหุ้นไทยวานนี้ แรงซื้อส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับการบรรจุเข้าคำนวณใน SET50/SET100 และส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากการเพิ่มน้ำหนักตาม FTSE ที่จะมีผลสิ้นวันนี้ กลุ่มที่ปรับขึ้นโดดเด่น ยังคงเป็นพลังงานและปิโตรเคมี ทั้งนี้ Investment Theme ไตรมาส 1/61 ของเราคือ ช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition Period) โดยเรายังคงมุมมองบวกต่อกลุ่มที่ประโยชน์จากเศรษบกิจโลกฟื้นตัวและการปฎิรูปของจีน ขณะที่ทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศที่คาดว่าจะค่อยๆฟื้นตัว โดยมี trigger สำคัญคือ การปรับเพิ่มประมาณการกำไรกลุ่มธนาคาร ซึ่งเราคาดว่าจะเกิดในช่วงต้นปี (ติดตามรายละเอียดได้ใน รายการ Get Impact วันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.60 เวลา 11.00 น.ที่ Facebook Live: UTRADE)

Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ IVL, MILL*, SGP*, TK, PSTC*, CPN, PYLON, BCP, GCAP*

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1690-1720 เน้นเลือกหุ้นรายตัว (selective buy) ขนาดใหญ่ ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน ระวังแรงทำกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก และกำหนดจุดตัดขาดทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง // หุ้นแนะนำ VNT*, PTT, IRPC, AMANAH

แนวรับ 1709  / แนวต้าน : 1720 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

กลุ่มธนาคารกลางเดินหน้าเพิ่มความเข้มงวดทางการเงิน เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว, อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มปรับขึ้น รวมถึงการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ชักนำให้กลุ่มธนาคารกลางต่างๆ เริ่มพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตาม เช่น จีน, เกาหลีใต้ ซึ่งล่าสุดออกมาระบุถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามสหรัฐฯ (จีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 0.05%) ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มมาตรการลดสภาพคล่อง QE ลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. ปีหน้า (ผลการประชุม ECB ล่าสุด คงนโยบายการเงินไว้ที่ระดับเดิมตามคาด)

การพิจารณาร่างกม.ภาษีเดินหน้าไปอีกขั้น ส.ส. และ สว.พรรครีพับลิกันบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการประสานร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีระหว่าง 2 สภาก่อนเข้าสู่กระบวนการโหวตโดยสภาคองเกรสและส่งต่อให้ ปธน.ทรัมป์ ลงนามรับรองเป็นกฎหมายต่อไป (คาดกระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นลงภายในวันที่ 25 ธ.ค.นี้) อย่างไรก็ตามความคาดหวังดังกล่าวถูกลดทอนลงหลังพรรครีพับลิกันเหลือที่นั่งในวุฒิสภาเพียง 51 ที่นั่ง จาก 52

มูดี้ส์มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารในปี 61มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ระบุว่า ในปี 61 ภาพรวมของธนาคารในกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิก (รวมถึงไทย) จะมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพจากแนวโน้มสินเชื่อที่คาดขยายตัวตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว

คลังเตียมจัดทำงบประมาณใหม่ รับสังคมสูงอายุ กระทรวงการคลังเตรียมจัดทำงบประมาณแบบใหม่ปี 62 เน้นรองรับสังคมผู้สูงอายุตามโครงสร้างประชากร คาดยอดการขาดดุลลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยการประชุมจะมีขึ้นในเดือน ม.ค.61   

ผลการคัดเลือก SPP Hybrid Firm ผ่าน 17 ราย – กกพ.รายงานผลการคัดเลือกรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผลิตไฟฟ้า SPP Hybrid Firm มีผู้ผ่านการประเมินข้อเสนอด้านราคาและได้รับคัดเลือกให้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 17 โครงการ ปริมาณเสนอขายทั้งสิ้น 300 MW โดยบจ.ที่ได้รับการคัดเลือกในครั้งนี้ ได้แก่ SUPER*, PSTC*, CWT* (กลุ่มนี้เราชอบ PSTC* และ SSP*)

ประเด็นติดตาม: 20 ธ.ค. TH – ประชุม กนง. / 29 ธ.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่SET10ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)