ราคาน้ำมันดิบปิดฟื้นตัว

ราคาน้ำมันดิบปิดฟื้นตัว

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดวันพฤหัสบดี(14ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ฟื้นตัวขึ้น หลังจากร่วงลงจากการเปิดเผยรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ซึ่งเตือนว่า ตลาดน้ำมันอาจเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดในปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 44 เซนต์  ปิดตลาดที่ราคา 57.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือเกือบ 1.4% ปิดที่ราคา 63.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ไออีเอ ออกรายงานว่า ตลาดน้ำมันอาจเผชิญภาวะน้ำมันล้นตลาดในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า จากการที่สหรัฐผลิตน้ำมันมากขึ้น หลังจากราคาดีดตัวขึ้น โดยการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีหน้า ได้ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น แต่นอกจากโอเปกจะได้รับประโยชน์จากราคาที่ดีดตัวขึ้นแล้ว ผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐ ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้ประโยชน์ ทำให้สหรัฐปรับเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอย่างมาก

ทั้งนี้ ไออีเอ คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันจากกลุ่มนอกโอเปก ซึ่งรวมถึงสหรัฐ เพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า และยังคาดว่า ปริมาณน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 97.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี

ไออีเอ  ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 390,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่ในปีหน้า จะอยู่ที่ 870,000 บาร์เรลต่อวัน และเชื่อว่า การขยายตัวของปริมาณน้ำมันทั่วโลกจะสูงกว่าอุปสงค์น้ำมัน ส่งผลให้เกิดภาวะเกินดุลน้ำมัน 200,000 บาร์เรล/วันในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า แต่จะอยู่ในภาวะขาดดุล 200,000 บาร์เรลต่อวันในช่วงครึ่งปีหลัง

นอกจากนี้ การลดลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐก็ได้ช่วยหนุนตลาดในวันนี้ โดยลดลง 5.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน สู่ระดับ 442.99 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2558