'บิ๊กป้อม'สั่งเข้มความปลอดภัยป้องบึ้มช่วงปีใหม่

'บิ๊กป้อม'สั่งเข้มความปลอดภัยป้องบึ้มช่วงปีใหม่

"บิ๊กป้อม" สั่งเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัยช่วงปีใหม่ ป้องกันเหตุร้าย - ก่อวินาศกรรมเน้นจุดเสี่ยง ทั้งสถานีขนส่ง-รถไฟฟ้า-สนามบิน

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กห. เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมกำหนดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยประชาชนและมาตรการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ห้วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง จากนั้น พล.ท.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมว่า การประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่ 2561 โดยในที่ประชุมได้ตระหนักถึงปัญหาการเสียชีวิตบนท้องถนนโดยสถิติของปี 2559 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึง 22,000 คน เฉลี่ย 50-60 ราย/วัน มีผู้เข้าโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ กว่าล้านคนเศษ และพิการ 60,000 คน

พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราสูญเสียประชาชนจากอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 2 แสนล้านคน ดังนั้นเราให้ความสำคัญกับปัญหาในเรื่องของอุบัติเหตุ โดยเฉพาะความเสี่ยงอยู่ในช่วงตอนกลางคืน และสาเหตุหลักเกิดจากความคึกคะนอง ไม่เคารพกฎจราจร ขาดสติ ดื่มสุรา หลับใน ประมาทเลินเล่อ ทั้งนี้รัฐบาลได้ออกมาตรการ 4 ข้อห้าม คือ ห้ามเมา ห้ามง่วง ห้ามขับรถเร็ว ห้ามโทรศัพท์ และ2 ต้อง คือ ต้องสวมหมวกนิรภัย ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย สำหรับมาตราการห้ามนั่งท้ายรถกระบะนั้น ให้รอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมยืนยันว่า มาตราการดื่มแล้วขับ จับยึดรถ ยังคงบังคับใช้

ในส่วนของหน่วยข่าวกรอง ให้เพิ่มความเข้มข้นในเรื่องงานด้านการข่าว และดำเนินงานด้านการข่าวในเชิงรุก หรือข่าวที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง หรือข่าวที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นส่วนใหญ่ และการเคลื่อนย้ายสิ่งผิดกฎหมายยาเสพติดในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการความปลอดภัย และการตื่นตัวของเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระมัดระวังการก่อวินาศกรรม จุดเสี่ยงคมนาคมที่สำคัญ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟฟ้า สถานีรถไฟ สนามบิน ท่าน้ำ ท่าเรือ แหล่งชุมชน รวมทั้งพื้นที่ล่อแหลมในเชิงสัญลักษณ์เนื่องจากในสถานการณ์โลกปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร

ส่วนพื้นที่ที่มีประชาชนจำนวนมาก ให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการ ขึ้นมาบูรณาการการทำงานกับทุกฝ่าย จัดทำแผนเผชิญเหตุและให้ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและไฟส่องสว่างให้สามารถใช้งานและเชื่อมโยงกันได้ สำหรับกระทรวงคมนาคมกำชับ ให้ตรวจสอบปรับปรุงซ่อมแซมถนน จุดแยก จุดตัดของคมนาคม ทางรถไฟ การขนส่งทางบก ทางน้ำ ให้มีความปลอดภัยในการสัญจรและขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งรถบรรทุกให้หยุดประกอบกิจการหรือหลีกเลี่ยงการใช้รถบรรทุกในช่วงสิ้นปีเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นและขอให้มีการปรับปรุงทัศนวิสัยผิวจราจร และแสงสว่างในจุดที่มีความเสี่ยง

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ให้รักษาความปลอดภัยกับประชาชนในชีวิตและทรัพย์สินและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งให้ความสำคัญในการป้องกันทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น ทั้งปัญหาอาชญากรรมและการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ตำรวจทางหลวงอำนวยความสะดวกการจราจรและแผนปฏิบัติบนท้องถนนทุกเส้นทาง โดยบูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประสานเป็นจุดพักรถระหว่างทางและให้ตำรวจทุกระดับอยู่ในที่ตั้งในพื้นที่ที่รับผิดชอบและพร้อมปฏิบัติภารกิจที่รับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้ตำรวจติดตามข่าวสารที่กระทบต่อความมั่นคงและมาตรการเชิงรุกในการดำเนินการตอบปัญหา รวมทั้งให้ติดตามการนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนใน Social Media

นอกจากนี้ให้ดำเนินการเข้มงวดในการคัดกรองการเข้าออกในราชอาณาจักรของบุคคลต้องห้ามและดูเส้นทางการขนย้ายของสิ่งของผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเส้นทางการเคลื่อนย้ายยาเสพติด ซึ่งอาจจะมีการเคลื่อนย้ายในช่วงหยุดยาวตามแหล่งพักพิงหรือแหล่งที่มาจากนอกประเทศ และให้ตำรวจสร้างการรับรู้ความเข้าใจควบคู่กับใครในการบังคับใช้กฎหมาย