รวบ2หนุ่มใหญ่ขับกระบะแหกด่าน ค้นรถพบงาช้าง

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ธ.ค.60 อำนวยการโดย พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.สุดพิเศษ เอกศิริ ผบก.จว.เลย พ.อ.ปราโมทย์ เนียสำเภอ ผบ.ฉก.ทพ.21 พ.ต.อ.สมชาย ศรีคำแดง ผกก.สภ.โพนทอง พ.ต.อ.สมคิด ทิพย์จักรพงษ์ ผกก.กก.3 บก.ปทส. พ.ต.อ.วรการ บุญประคอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.เลย นายสุรพล ประสมทรัพย์ หน.เขตรักษาพันสัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ ได้ร่วมกันวางแผนจับกุมขบวนการค้างาช้างข้ามชาติ หลังสืบทราบว่า จะมีการนัดส่งมอบงาช้าง หนังช้าง บริเวณริมแม่น้ำเหือง บ้านอาฮี หมู่ 6 ต.อาฮี อ.ท่าลี่ จ.เลย ข้ามไปยังไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว นำกำลังตั้งด่านตรวจสกัด

พบเห็นรถโตโยต้าวีโก้ตอนเดียว สีบรอนด์ทอง ทะเบียน บบ 5168 เลย ตรงตามที่รับแจ้ง จึงให้หยุดเพื่อตรวจค้น แต่คนขับรถแหกด่านหนี จึงนำกำลังออกติดตามจนไปพบทั้งสองคนทราบชื่อภายหลังนายสำรอง จันทะคุณ อายุ 58 ปี และนายจีรวัตร จันทะคุณ อายุ 45 ปี ชาว ต.เหล่ากอหก อ.นาแห้ว จ.เลย กำลังช่วยกันยกกระสอบปุ๋ยหลังท้ายกระบะจำนวน 3 ถุง ที่ริมแม่น้ำเหือง บริเวณท่าน้ำนาแก่งม้า ต.อาฮี ได้แสดงตัวขอตรวจค้น จับกุม ตรวจสอบถุงปุ๋ยพบเป็นงาช้างยาวประมาณ 70 ซ.ม. 2 กิ่ง น้ำหนัก 4.5 ก.ก. มูลค่าร่วม 300,000 บาท หนังช้างตากแห้ง บริเวณงวงช้างจำนวน 19 ชิ้น น้ำหนัก 41.3 กก. ยังประเมินราคาไม่ได้ จึงได้ตรวจยึดนำตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สภ.โพนทอง

จากการสอบสวนนายสำรอง (คนขับ) รับสารภาพว่า มีนายทุนที่บ้านร่มเกล้า อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ว่าจ้างให้มาส่งงาช้างและหนังช้างที่ริมแม่น้ำเหือง บ้านอาฮี อ.ท่าลี่ จะมีพ่อค้าคนลาวมารับข้ามฝั่งไปยังลาว ได้ค่าจ้าง 30,000 บาท เพิ่งทำเป็นครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าลักลอบทำมานานแล้ว และจากตรวจสอบประวัติพบว่านายสำรองเคยมีประวัติเสพยาบ้าและค้าไม่เถื่อนมาแล้ว ส่วนนายจีรวัตร ไม่พบมีประวัติ สอบสวนเสร็จนำตัวไปขยายผลตรวจค้นที่บ้าน อ.นาแห้ว และเสนอใช้กฎหมาย ปปง.ตรวจยึดทรัพย์สินต่อไป

นายสุรพล ประสมทรัพย์ หน.เขตรักษาพันสัตว์ป่าภูหลวง กล่าวว่า ดูจากงาช้าและหนังช้างแล้ว คาดว่าเป็นช้างตัวใหญ่โตอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ราคางาช้างตกกิโล 50,000 บาท ส่วนหนังช้างไม่ทราบ ว่ากลุ่มนายทุนเอาหนังช้างไปทำอะไร เพราะไม่เคยเจอลักษณะแบบนี้ หรือส่งไปยังประเทศที่นิยมเอาหนังช้างไปตุ๋นเป็นยาจีน ยาโด๊ป ส่วนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพนำมาจากบ้านร่มเกล้า จ.พิษณุโลก ไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ไม่น่าจะมีช้าง แต่อย่างไรได้ทำการตรวจยึดเนื้อเยื้อเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอ และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป