จับล็อตใหญ่ไอซ์ 199 กก.ค่ากว่า 200 ล้าน

จับล็อตใหญ่ไอซ์ 199 กก.ค่ากว่า 200 ล้าน

จับล็อตใหญ่! บรรทุกยาไอซ์ 199 กก.มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ท้ายกระบะแต่เจอด่านวกกลับไปพักรีสอร์ทรอจังหวะ แต่ไม่รอดถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดนครพนมจับกุมเสียก่อน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 14 ธ.ค. 2560 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว. ร่วมกันแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปรามยาเสเพติด ร่วมกันจับกุมนายสมพงษ์ วิชญธรกุล อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 126/1 ม.2 ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 199 แท่ง น้ำหนัก 199 กก. พร้อมด้วยรถยนต์กะบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ทะเบียน บพ-8684-เพชรบุรี โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องโดยแจ้งข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งของกลางที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครพนมเท่าที่เคยมีการจับกุมได้

ยาไอซ์ เป็นสารบริสุทธิ์ ตั้งต้นในการผลิตยาบ้า ราคาซื้อขายตามแนวตะเข็บชายแดน กก.ละ 1 ถึง 1.5 ล้านบาท ถ้านำเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน มีราคาสูงถึง กก.ละ 2-3 ล้านบาท แต่ถ้านำไปผลิตเป็นยาบ้าจะได้ยาบ้าทั้งหมด 1,500,000 ล้านเม็ด โดยผู้ต้องหาได้เดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี มาพักอยู่ที่พฤกษาวิว รีสอร์ท 2 คืน โดยมาพักกับเพื่อนที่เป็นคนนำทาง พอถึงเวลานัดหมาย ขับรถคันดังกล่าวไปที่บริเวณบ้านโพนทอง และจะมีคนที่รออยู่เอายาไอซ์ขนขึ้นรถ ให้หลังจากนั้นก็นำเอาผ้ายางปิดไว้ และนัดหมายให้นายสมพงษ์ มารับรถ เพื่อขับไปยังปลายทางต่อไป

แต่เจอกับด่านตรวจที่เจ้าหน้าที่สืบทราบมาก่อนว่าจะมีการขนส่งยาไอซ์ล็อตนี้ นายสมพงษ์ จึงขับรถกลับมาพักที่รีสอร์ทบ้านนากระแต้ อ.บ้านแพงเพื่อหวังรอจังหวะ แต่ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปที่รีสอร์ทพร้อมขอตรวจสอบรถยนต์ หมายเลขทะเบียน บพ-8684 เพชรบุรี ซึ่งมีลักษณะตรงตามที่สายแจ้ง พบยาไอซ์ 199 แท่ง น้ำหนักประมาณ 199 กก. อยู่ท้ายกระบะรถ สอบถามผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับจ้างจากกลุ่มนายทุนให้มาขับรถขนยาไอซ์ไปส่งที่ กรุงเทพมหานคร แต่มาเจอด่านตรวจจึงขับรถเลี้ยวกลับและถูกเจ้าหน้าทีตำรวจติดตามมาจับกุม ส่วนพรรคพวกคนอื่น ๆ ได้แยกย้ายกันหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแพง เพื่อสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป