ฎีกาสั่งจำคุก 'จตุพร' ลดโทษ1ปีไม่รออาญา คดีหมิ่น'อภิสิทธิ์'

ฎีกาสั่งจำคุก 'จตุพร' ลดโทษ1ปีไม่รออาญา คดีหมิ่น'อภิสิทธิ์'

ศาลฎีกาสั่งจำคุก "จตุพร" ลดโทษเหลือเพียง1ปีไม่รออาญา คดีหมิ่น "อภิสิทธิ์" เหตุปราศรัยปี 52

ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีดำ อ.4176/2552 ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร หรือตู่ พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่น โดยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 กรณีเมื่อวันที่ 11ต.ค.52 จำเลยได้ขึ้นปราศรัยบนเวที นปช.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน โดยกล่าวใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ โจทก์ทำนองว่า ประวิงเวลาในการทำความเห็นเพื่อเสนอสำนักราชเลขาธิการ พิจารณาผู้ที่ร่วมลงรายชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2552 จำเลยยังได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่ม นปช.ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีทำนองว่า เป็นอาชญากรและฆาตกรสั่งฆ่าประชาชน อย่างเลือดเย็น มีการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง โดยได้มีการเผยแพร่คำปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์พีเพิลแชนแนลซึ่งล้วนเป็นเท็จทำให้โจทก์ ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 58 เห็นว่า นายจตุพร กระทำผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรม จำคุกกระทงละ 1 ปี จำนวน 2 กระทง รวมจำคุก 2 ปี และลงโฆษณาคำพิพากษาย่อ ใน นสพ.รายวัน 3 ฉบับโดยจำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา ทั้งนี้เมื่อพิเคราะห์พฤติกาณ์การกระทำผิดของจำเลยแล้ว มีถ้อยคำบางช่วงบางตอนที่ไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่ง อาจกระทบต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทยโทษจำคุกจึงไม่เห็นควรรอการลงโทษ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จำเลยปราศรัยหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์เพื่อให้ประชาชนออกมาขับไล่โจทก์ในฐานะเป็นรัฐบาลซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทใส่ร้ายโจทก์ตามฟ้องจริงส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลรอลงอาญานั้น เมื่อพิจารณาเเล้วเห็นว่า ถ้อยคำของจำเลยไม่เป็นการสมควร หมิ่นเหม่กระทบสถาบันจึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ เเต่ในชั้นฎีกาจำเลยในยอมรับว่า ได้ปราศรัยถ้อยคำดังกล่าวจริงที่ศาลล่างพิพากษามานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เห็นควรลดโทษบ้าง จึงพิพากษาเเก้ให้จำคุกกระทงละ6 เดือนรวม 2 กระทงเป็นจำคุก 12 เดือน นอกจากที่เเก้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น

ในวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เบิกตัวนายจตุพร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาโดยมีภรรยา บุตร และนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ มาให้กำลังใจเนื่องจากในขณะนี้นายจตุพร ถูกคุมขัง ตามคำพิพากษาศาลฎีกา ให้จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา คดีหมายเลขดำ อ.1962/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร เป็นจำเลยอีกคดีหนึ่ง กรณีเมื่อวันที่ 10 พ.ค.52