รวบทันควันเเท็กซี่ลักทรัพย์ สาวแดนกิมจิกว่า2แสน

รวบทันควันเเท็กซี่ลักทรัพย์ สาวแดนกิมจิกว่า2แสน

รวบทันควันเเท็กซี่ภัยสังคม ลักทรัพย์สาวแดนกิมจิกว่า 2 แสน เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ตร.เเจ้งข้อหาหนัก

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2560 ที่กองกำกับการ1 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนามศุภชลาศัย ถนนพระรามที่ 1 พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี รรท.ผบช.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.รองผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง รรท.ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศารุติ แขวงโสภา รองผบก.ทท.1 พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 สืบสวนสภ.เมืองพัทยา ผู้เสียหายและนายปาร์ค แจฮวา กงศุลฝ่ายตำรวจเกาหลีใต้ ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายเสกสรร มุธุตา อายุ 52 ปี พร้อมของกลาง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงสีดำ 1 ใบ หนังสือเดินทางสาธารณรัฐเกาหลี ระบุชื่อ น.ส.คิม จูฮี 1 เล่ม กระเป๋าสตางค์สีดำ 1 ใบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อซัมซุงสีเงิน 1 เครื่อง ไอแพด ยี่ห้อ แอปเปิ้ล สีเงิน 1 เครื่อง เงินสกุลวอน รวมเป็นเงิน 2,000,000 วอน เงินสกุลบาท รวมเป็นเงิน 29,910 บาท รถยนต์โดยสารแท็กซี่ยี่ห้อ โตโยต้ารุ่นอัลติสสีชมพู หมายเลขทะเบียน ทห 4296 กทม. จำนวน 1 คัน และกุญแจรถ จำนวน 1 ดอก รวมมูลค่าทรัพย์สินของผู้เสียหายกว่า 2 แสนบาท

พล.ต.ท.สาคร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เวลาประมาณ 23.00 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุ 1155 ของบช.ทท. ได้แจ้งมายัง ส.ทท.4ฯ หรือตำรวจท่องเที่ยวพัทยาว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกแท็กซี่ลักทรัพย์ บริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.พัทยาเหนือ ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหญิงสาวชาวเกาหลีชื่อน.ส.คิม จูฮี อายุ 30 ปี สัญชาติเกาหลี ให้การว่า ตนกำลังจะเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจ้างรถแท็กซี่สีแดงเหลืองโดยสารมาจากพัทยา จ.ชลบุรี และมาเปลี่ยนรถแท็กซี่อีกคันหนึ่งเป็นรถแท็กซี่สีชมพูที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ถ.พัทยาเหนือ เพื่อเดินทางไปต่อ แต่เมื่อตนขนสัมภาระขึ้นรถแท็กซี่คันสีชมพูแล้ว ระหว่างตกลงราคายังไม่แล้วเสร็จ คนขับรถแท็กซี่กลับขับรถออกไป โดยนำสัมภาระ และทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม เจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่า รถยนต์แท็กซี่สีชมพูคันก่อเหตุ คือ รถโดยสารสาธารณะหมายเลขทะเบียน ทห – 4269 กทม สีชมพู ผู้ขับขี่ คือ นายเสกสรร มุธุตา จึงได้ออกติดตามกระทั่งจับกุมได้ที่ถนนมอเตอร์เวย์ ก่อนประสานให้ผู้เสียหายเข้ามายืนยันทรัพย์สิน

พล.ต.ท.สาคร กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นอยากให้มองว่าไม่ได้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว แต่เป็นจิตสำนึกของความเป็นตำรวจในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้นตนขอให้คำมั่นว่าตำรวจท่องเที่ยวจะดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในชีวิตและทรัพย์สินตลอดการเดินทาง และอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย
ด้านนายปาร์ค แจฮวา กงสุล(ฝ่ายตำรวจ) ได้กล่าวขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้โดยเร็ว ซึ่งการทำงานครั้งนี้เป็นการสร้างความเชื่อมั่นความปลอดภัย โดยเชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเข้ามามากถึง 2 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ทางนักท่องเที่ยวได้นำกระเช้าดอกไม้มามอบขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้

จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาในการจะลักทรัพย์นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป