ปรับลุ๊ค 'ผู้ดีอังกฤษ' เกาะติดพิธีวิวาห์เจ้าชายแฮรี่

ปรับลุ๊ค 'ผู้ดีอังกฤษ' เกาะติดพิธีวิวาห์เจ้าชายแฮรี่

ประเทศอังกฤษกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่งหลังจากสำนักพระราชวังอังกฤษได้ออกแถลงการณ์ว่าเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงหมั้นกับ เมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวชาวอเมริกัน เมื่อช่วงต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยรายงานข่าวระบุว่าจะมีพิธีอภิเษกสมรสที่โบสถ์เซนต์จอร์จ ณ พระราชวังวินเซอร์ในต้นปีหน้า และแม้จะยังไม่มีการกำหนดวัน แต่หลายฝ่ายคาดว่าน่าจะเป็นเดือนพฤษภาคม เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตรงกับช่วงเวลาที่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์จะมีพระประสูติกาลพระทายาทองค์ที่ 3 ในเดือนเมษายน

ตอนนี้ สื่ออังกฤษเองหรือสื่อต่างประเทศก็พาสรรหาและขุดคุ้ยเรื่องราวความเป็นมาของมาร์เคิลและรายละเอียดของงานอภิเกษสมรส เช่นสถานที่จัดงาน ธุรกิจท่องเที่ยวในอังกฤษก็พากันตอบรับเรื่องความรักและการอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮรี่กันอย่างคึกคักหลังจากธุรกิจนี้และธุรกิจอื่นๆ ซบเซามานานเพราะเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลงและผลกระทบจากเหตุการณ์ก่อการร้ายในอังกฤษโดยเฉพาะในลอนดอนที่เป็นเมืองหลวง

แพตตริเซีย เยทส์ ผู้อำนวยการของ VisitBritain เว็บไซต์ให้บริการท่องเที่ยวในอังกฤษ กล่าวแสดงความยินดีกับเจ้าชายแฮรี่และพระคู่หมั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เรื่องอันเป็นมงคลอย่างนี้ทำให้อังกฤษเป็นจุดสนใจของสื่อต่างๆ ทั่วโลก ส่วนโฆษกของ VisitLondon กล่าวว่า “การท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับวังของพระราชวงศ์ต่างๆ เช่น บักกิ้งแฮมพาเลซ พระราชวังวินเซอร์ สามารถสร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านปอนด์ต่อปีจากนักท่องเที่ยวมากกว่า 2.7 ล้านคนเลยทีเดียว

รัสเซล อิมรี่ ผู้อำนวยการจัดการของโรงแรมควีนส์เฟอร์รี่ในเมืองเอดินเบิร์ก กล่าวว่า ประสบการณ์ในอดีตเป็นตัวชี้ชัดว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับราชวงศ์ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวที่เข้ามายังอังกฤษ “เราสังเกตว่า โรงแรมของเราในเอดินเบิร์กและดันเฟิร์มไลน์มียอดจองเพิ่มขึ้นจากพระราชพิธีอภิเษกสมรสในอังกฤษที่ผ่านมา”

ส่วนยูโรสตาร์ซึ่งให้บริการรถไฟข้ามช่องแคบก็กล่าวว่า พิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮรี่และเคท มิดเดิลตัน เมื่อปี 2011 ก็ทำให้ยอดจองเพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว “การจองตั๋วที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เยอรมันและเนเธอร์แลนด์ ยอดจองจากฝั่งอเมริกาก็เพิ่มขึ้นประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์

VisitBritain กล่าวว่า ในปี 2011 นักท่องเที่ยวกว่า 600,000 คนเข้าไปในวังบักกิ้งแฮมพาเลซเพื่อชื่นชมชุดแต่งงานของเคท ซึ่งตอนนี้เป็นดัชเชสแห่งแคบริดช์ไปแล้ว จำนวนนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2010

หลังการประกาศการอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮรี่และพระคู่หมั้นและมีกระแสว่า จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพากันหลั่งไหลมาที่อังกฤษในปีหน้า มีการตั้งคำถามในอินเตอร์เน็ตว่า “อะไรที่นักท่องเที่ยวไม่ควรทำหรือพูดในอังกฤษ” นัยว่าเพื่อเป็นการเตรียมตัวเพราะส่วนหนึ่งคนอังกฤษมีความเจ้ายศเจ้าอย่างหรือผู้ดีอังกฤษนั่นเอง

คำถามนี้ได้รับคำตอบมากมายและหลากหลาย นิก เทรเวอร์ แนะว่า คนอังกฤษไม่ชอบการแซงคิวในทุกๆ ที่ “ห้ามแซงคิวโดยเด็ดขาด คนอังกฤษอาจทนอะไรได้หลายอย่าง ไม่โวยวายหรือใช้ความรุนแรง แต่เรื่องแทรกแถวหรือแซงคิวนี่ พวกเรายอมไม่ได้ อาจเกิดความรุนแรงได้”

ส่วน อิซต็อก กล่าวว่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพูดเรื่องเงินๆ ทองกับคนอังกฤษ เช่นเรื่องเงินเดือนหรือมีเงินเท่าไหร่ นอกจากนี้ สตีฟ เจ็นกินส์ เตือนว่า ถ้าอยากไปเที่ยวผับในอังกฤษ นักท่องเที่ยวควรกินอะไรรองท้องไปก่อนเพราะถ้าไปแบบท้องว่างจะเมาได้ง่าย “เวลาคนอังกฤษไปเที่ยวผับ พวกเขาดื่มแอลกอฮอล์เหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่ ดังนั้นถ้าพวกคุณดื่มเหล้าเล็กน้อย พวกเขาจะรู้สึกขัดใจอย่างยิ่ง”

ลูเซีย ลิตเติ้ล ให้คำแนะนำว่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดสโคน (Scone) ขนมปังอังกฤษทำจากข้าวสาลี ข้าวบาร์ลีย์ หรือข้าวโอ๊ต และมักบริโภคกับชาครีมหรือชาเดวอนเชอร์ แต่เธอเตือนว่า ควรออกเสียงให้ถูกต้อง ไม่ใช่ stone ที่แปลว่าก้อนหิน

ส่วนโทนี่ บาร์ธเล็ต แนะว่า นักท่องเที่ยวไม่ควรเรียกวันคริสต์มาสว่า ขอให้มีความสุขในวันหยุดคริสต์มาส เพราะเป็นวันสำคัญทางศาสนาที่ฉลองการประสูติของพระเยซูเจ้า

การอภิเษกสมรสในปีหน้านี้ นอกจากจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของอังกฤษแล้ว เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในที่อื่นๆ ด้วย เพราะเจ้าชายแฮรี่และพระคู่หมั้นรักการท่องเที่ยวอย่างมาก เมื่อทั้งสองรู้จักกันผ่านทางเพื่อนสนิทของเจ้าชายแล้วเมื่อปี 2016 ทั้งสองก็ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปในหลายๆ ประเทศแบบส่วนตัว สื่อหลายสำนักได้สืบเสาะและนำมารายงาน คู่รักหลายๆ คนก็อาจจะอยากตามรอยทั้งคู่ก็เป็นได้ เช่น นอร์เวย์ จาไมก้า บอสวาน่า เป็นต้น