sideway จับตาผลการประชุมธนาคารกลางหลัก

sideway จับตาผลการประชุมธนาคารกลางหลัก

ทยอยเก็บเมื่ออ่อนตัว

สรุปภาวะตลาดวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยปิดลบ ในทิศทางเดียวกับหลายตลาดในภูมิภาค หลังมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กหลายตัว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันทำการที่ 8 รวมแล้วกว่า 9.95 พันล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนข้างคละ นักลงทุนรอจับตาผลการประชุมเฟดคืนนี้

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ แกว่งตัว sideway ในกรอบ 1695-1710 จุด โดยคาด นักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อรอจับตาดูผลการประชุมเฟดคืนนี้ และการประชุม ECB และ BoE ในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ ตลาดได้รับรู้มาพอสมควรแล้วว่าเฟดน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในคืนนี้ อย่างไรก็ดี หากเฟดปรับมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่องได้ และอาจส่งผลกดดันราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น ประกอบกับ นักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่สดใสนักในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ความหวังยังอยู่ที่เม็ดเงิน LTF/RMF รวมถึงการทำราคาปิดสิ้นไตรมาส (window dressing) ซึ่งจะมาช่วยหนุนดัชนีในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี

ทางเทคนิค ดัชนียังพักตัวอยู่ในกรอบสามเหลี่ยม ระหว่าง 1690-1715 จุด ขณะที่เรายังมองแนวรับบริเวณ 1690 จุดยังค่อนข้างแข็งแกร่ง จึงยังให้น้ำหนักการ break up มากกว่า break down

ประเด็นสำคัญวันนี้

1) + ไทย: ที่ประชุมครม. รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ 3 มาตรการ หลังรับข้อร้องเรียนจากเกษตรกรชาวสวนยางแล้ว ซึ่งกระทรวงฯ จะเสนอให้ที่ประชุมฯ พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า คาดจะช่วยพยุงราคายางพาราที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ไม่ให้เกษตรกรขาดทุน (ดูรายละเอียดในเล่ม)

2) – น้ำมัน: WTI ปิดลบ 1.5% ที่ 57.14 ดอลลาร์/บาร์เรล จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและแรงเทขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเหนือของอังกฤษ

3) จับตาผลการประชุมเฟด ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% มาอยู่ที่ 1.25-1.50% และจับตาคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจจากเฟด

กลยุทธ์

          Accumulate Buy บริเวณ 1688/1692 จุด

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

          กลุ่มเรือ ตาม BDI ที่สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ได้แก่ PSL RCL TTA

          กลุ่มยาง (คาดหวังผลบวกมาตรการรัฐ) ได้แก่ STA TRUBB