'พลังงาน'เตรียมเรียกผู้ค้าฯถกแก้น้ำมันปาล์มดิบล้นตลาด

นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด (PTTRM) เปิดเผยภายหลังงานแถลงข่าวเปิดโครงการ QR Code Payment ซึ่งร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ว่า กระทรวงพลังงานจะมีการเรียกผู้ค้ามาตรา 7 ไปเจรจาหาทางดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ(ซีพีโอ)ที่มีการผลิตล้นตลาด 100,000 ตัน ภายใน 1-2 เดือน

ทั้งนี้หากต้องการให้ ปตท. เพิ่มการเก็บสต็อกซีพีโอก็จะสามารถช่วยได้ส่วนหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าปตท.เองก็ยังใช้วิธีเก็บแบบเช่าคลังซึ่งหากมีการเก็บสต็อกสูงเกินไปก็จะกระทบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่น ๆ ที่เก็บอยู่ แต่อาจจะกระทบกับราคาขายปลีกไอโอดีเซลด้วย

"ปตท.มีการดำเนินตามนโยบายและคำสั่งกระทรวงมาโดยตลอด อย่างในช่วงเดือน ส.ค. 60 ที่ผ่านมา ปตท. มีการดูดซับซีพีโออยู่ประมาณ 23,000 ตัน ซึ่งครั้งนี้ที่หากจะให้ ปตท. เพิ่มการเก็บสต๊อกอีกก็จะช่วยได้ส่วนหนึ่ง" นางสาวจิราพร กล่าว

นอกจากนี้ ปตท.ได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยร่วมกันพัฒนาระบบการชำระเงินด้วยไดนามิก คิวอาร์โค้ด (Dynamic QR Code) ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคไม่ต้องระบุจำนวนเงินเอง เพียงมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้จ่ายเงินด้วยคิวอาร์โค้ดของธนาคารใดก็ได้เมื่อซื้อสินค้าให้แจ้งร้านค้าว่าจะชำระด้วยคิวอาร์จากนั้นสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรากฏบนหน้าจอเครื่องรับบัตรเครดิตก็สามารถชำระเงินได้ทันที

โดยปตท.ได้ให้ร้านค้าปลีกในสถานีบริการ (ปั๊ม) ได้แก่ ร้านคาเฟ่อเมซอน, เท็กซัส ชิคเก้น, แด๊ดดี้โด, ฮั่วเซ่งฮง ติ๋มซำ, ศูนย์บริการยานยนต์ฟิตออโต้ และร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ที่มีกว่า 2,200 จุด เปิดรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการด้วยคิวอาร์โค้ด โดยมีกำหนดเริ่มใช้งานได้ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 รวมทั้งมีแผนขยายบริการทั่วประเทศได้ภายในกลางปี 2561

"ขณะนี้ ปตท.อยู่ระหว่างหารือกับกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงานถึงแนวทางการขยายบริการคิวอาร์โค้ดในจุดเติมน้ำมัน ซึ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก โดยไม่ให้ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ห้ามผู้ใช้รถใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติมน้ำมันในปั๊มเพื่อป้องกันอัคคีภัย คาดไตรมาส 3/2561 จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน"