อดีตเมียหนุ่มป่วยมะเร็ง แจงปมฮุบเงินบริจาค

อดีตเมียหนุ่มป่วยมะเร็ง แจงปมฮุบเงินบริจาค

อดีตเมียหนุ่มป่วยมะเร็งอึกอักแจงสื่อปมหอบเงินบริจาคเกือบ 10 ล้านบาทหนี ยันไม่ได้นำเงินไปใช้มั่วซั่ว ด้านครอบครัวฝ่ายชายวอนเห็นใจ

จากกรณีนายประเสริฐ คำมุงคุณ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 บ้านโสกแมว ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ร้องเรียนผ่านสื่อว่า ลูกชายคือ นายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส คำมุงคุณ อายุ 24 ปี ผู้ป่วยโรคมะเร็งในโพรงจมูก ซึ่งเป็นข่าวโด่งดังทางโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์เมื่อกลางปี 2559 นั้น ภายหลังถูกอดีตภรรยาของผู้ป่วยคือ น.ส.พัชรีพร (สงวนนามสกุล) หรือน้องป๊อบปี้ อายุ 21 ปี หอบเงินบริจาคเกือบ 10 ล้านบาทหนีไปอยู่บ้านพ่อแม่โดยไม่ยอมมาเหลียวแลบุตรชายของตน และนำเงินดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดเจตนารมณ์ของผู้ใจบุญทั่วประเทศ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(13 ธ.ค.60) ผู้สื่อข่าวได้ประสานผ่านทางนายอุทิศ อุ่นไชย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านโสกแมว เพื่อขอสัมภาษณ์ครอบครัวของน้องป๊อบปี้ ซึ่งตอบรับจะให้รายละเอียดจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 159 หมู่ 2 บ้านโสกแมว อยู่ริมถนนเปรมประชา สายดอนสวรรค์-ดงหลวง มีนายประดิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และนางทองม้วน (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พ่อและแม่ของน้องป๊อบปี้รอต้อนรับ จากนั้นพ่อและแม่จึงเรียกน้องป๊อบปี้มาพูดคุยบริเวณห้องโถง ซึ่งสีหน้าของน้องป๊อบปี้มีความกังวล นั่งก้มหน้าพยายามหลบผู้สื่อข่าวตลอดเวลา เมื่อถูกซักถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่พ่อและแม่ของน้องป๊อบปี้จะตอบแทน

ka7dbjki7j7cha5kjgi6g_1


โดยนายประดิษฐ์ ซึ่งเป็นอดีตพ่อตาของนายเดชฤทธิ์ เปิดเผยว่า ลูกสาวอยู่กินกับนายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส มาเป็นเวลา 5 ปี ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงินค่าสินสอดทองหมั้นแต่อย่างใด โดยอาศัยอยู่บ้านตนตลอด เมื่อป่วยมีแต่พ่อตาแม่ยายที่พาไปหาหมอ ไม่เห็นพ่อฝ่ายชายจะเหลียวแล พอเป็นข่าวโด่งดังถึงเข้ามาเกี่ยวพัน เงินที่ได้รับบริจาคก็ถอนออกมาใช้จ่ายเฉพาะเรื่องเจ็บป่วยของลูกเขย ส่วนที่บอกว่านำเงินไปซื้อรถกระบะ และสร้างบ้านนั้น นายเดชฤทธิ์ต่างหากที่เป็นคนบอกให้ซื้อให้สร้าง ถึงขณะนี้ทางครอบครัวตนก็ยังไม่ทราบว่าบัญชีของลูกสาวถูกอายัด ก็พร้อมจะไปเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนม ในวันที่ 22 ม.ค.2561

เมื่อถามต่อถึงเงินในบัญชีกว่า 2 แสนบาท ที่ทาง อบต.อุ่มเหม้า เปิดไว้นั้น ทำไมถึงไม่ไปถอนให้ทางครอบครัวอดีตสามี ซึ่งต้องลงลายมือชื่อถอนร่วมกัน 3 คน ประกอบด้วย นายเผย คำมุงคุณ นายก อบต. ,นายประเสริฐ คำมุงคุณ และน.ส.พัชรีพร โดยนายประดิษฐ์อ้างว่าทนายสั่งไว้ห้ามไม่ให้ไปถอน เพราะอาจจะถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ ตนกลัวจึงไม่ยอมให้ลูกสาวไปเซ็นชื่อร่วมถอน

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม น.ส.พัชรีพร หรือน้องป๊อบปี้ ว่า ต้องการจะบอกอะไรกับนายเดชฤทธิ์ อดีตสามีบ้าง ก็ได้รับคำตอบเพียงสั้นๆว่า "หากให้กลับไปอยู่ด้วยกันอีก คงต้องขอคิดดูก่อน" พร้อมกับก้มหน้าร้องไห้

g86bh9iee6ea5h6bbjiba


เมื่อถามต่อถึงคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดงชื่อดังที่ยื่นมือเข้ามาระดมทุนช่วยเหลือ ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ น้องป๊อบปี้ส่ายหน้าอ้างว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์คุณบิณฑ์ ผู้สื่อข่าวจึงมอบเบอร์โทรฯของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ให้เพื่อจะได้โทรชี้แจงรายละเอียด

หลังจากนั้นก็ย้อนกลับมายังบ้านของนายเดชฤทธิ์ หรือน้องมอส อีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่น้องมอสปวดท้อง นายประเสริฐจึงจูงมือลูกชายไปหลังบ้าน ซึ่งนำลำไม้ไผ่ทำเป็นราวให้เกาะจนถึงหน้าประตูห้องน้ำ มีลักษณะจะพังไม่พังแหล่ เสายังต้องใช้ไม้มาค้ำ ไม่มีหลังคาคลุม จึงถามทำไมไม่ปรับปรุงให้ดีกว่านี้ นายประเสริฐตอบจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม เพราะลูกสะใภ้ไม่เคยจะมาเหลียวดู รู้ทั้งรู้ครอบครัวของตนลำบากแค่ไหน ไม่น่าจะมาซ้ำเติมกัน

นางเมย์ลิษา คำมุงคุณ อายุ 41 ปี น้าสาวของน้องมอสกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางครอบครัวรู้ดีควรจะดำเนินชีวิตกันอย่างไร เคยกินเคยนอนแบบไหนก็คงเป็นเช่นนั้น ผิดกับบางคนเห็นเงินไหลเข้าบัญชีเป็นล้านแค่วันแรกก็รีบลาออกจากงานทันที ใช้ชีวิตอย่างฟุ้งเฟ้อ ไม่คำนึงถึงผู้บริจาคเขามีเจตนาต้องการช่วยเหลือหลานชาย ไม่ใช่ช่วยเหลือครอบครัวพวกเขา พอถามหนักๆเข้า ก็ตีโพยตีพายไล่ให้ไปฟ้องร้องเอา ขณะเกิดเรื่องมีคนเข้ามาขอไกล่เกลี่ย เงินที่เหลือในบัญชีปัจจุบัน 5,700,000 บาท ทางครอบครัวของน้องป๊อบปี้ขอแบ่ง 1 ใน 3 ตนขอบอกเลยว่าพวกคุณเอาไปใช้ปู้ยี่ปู้ยำราวเศษกระดาษกว่า 3 ล้านบาท ยังไม่หนำใจอีกหรือ จึงให้อยู่ในดุจพินิจของศาลสถิตยุติธรรมท่านพิจารณาต่อไป