MORNING CALL ACTION NOTES (13 ธ.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (13 ธ.ค.60)

เก็งกำไรในกรอบ

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน อ่อนตัวต่อเนื่องจากแรงกดดันในกลุ่ม COMM PROP และ TRANS ถูกชดเชยบางส่วนจากกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันฟื้นตัว ทำให้ SET Index ปิดที่ 1702.17 จุด (-4.35 จุด) Volume 5.2 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -706.38 ลบ.  TFEX Net -8,209 สัญญา ตราสารหนี้ +9,043 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก ก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้

+สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน โดยได้เพิ่มขึ้น 0.4% ติดต่อกัน 3 เดือน

+ร.ฟ.ท. เร่งร่าง TOR งานระบบอาณัติสัญญาณรถไฟทางคู่เฟสแรก 5 สายทาง วงเงินรวม 1.27 หมื่นล้านบาท คาดเปิดประกวดราคาไตรมาสแรกปี 2561 มั่นใจเข้า ครม. เคาะรถไฟทางคู่ 5 สายสัปดาห์หน้า

-น้ำมันดิบปิดลบเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร จากที่ก่อนหน้านี้ราคาปรับตัวขึ้นจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และข่าวการปิดท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทะเลเหนือของอังกฤษ

+ เม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาขายรวม 9 วันราว 9.9 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่า 32.61  Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.21 แสนสัญญา)

**12 – 13 ธ.ค. กำหนดประชุม Fed คาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25%

**14 ธ.ค. ประชุม ECB และธนาคารกลางอังกฤษ

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกตลาดหุ้นต่างประเทศ แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ และเม็ดเงินจากกองทุน LTF RMF โดยมีปัจจัยลบจากfund flow ต่างชาติผันผวน  และราคาน้ำมันที่ปรับลดลง  คาดวันนี้ SET จะปรับตัวขึ้นในกรอบ 1,696-1,711 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- หุ้นเข้าคำนวณดัชนี FTSE SET Large Cap ได้แก่ EA  ส่วนดัชนี FTSE SET Mid Capได้แก่ BGRIM, ORI, PRM, RATCH, RS, TOA มีผล 18 ธ.ค.

- SAWAD TPIPP CENTEL มีลุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50 ประกาศกลางธ.ค.

- หุ้นที่มีโอกาส Window dressing SCB KTB PTTEP

- หุ้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีสหรัฐ IVL

- ดัชนีค่าระวางเรือปรับขึ้นต่อเนื่อง 1 เดือนรวม 26.7% แล้ว แนะนำ PSL

- SPP HYBRID Firm ประกาศผล 14 ธ.ค. แนะนำ SSP PSTC

- ERW ปลัดท่องเที่ยว หนุนใช้มาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวไทยเที่ยวไทย

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA

หุ้นแนะนำพิเศษ

ADVANC (ราคาปิด 179 บาท Bloomberg Consensus 206.25 บาท)

  • เป็นผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่มีทรัพย์สินในการประกอบธุรกิจเพียบพร้อมอยู่แล้ว ทั้งใบอนุญาตในมือ (55 MHz) และโครงข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 98% ปัจจุบันบริษัทมีแผนที่จะเริ่มลดงบประมาณการลงทุนรายปีจากกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ลดความเป็น Capital Intensive ลงชั่วคราว นอกจากนี้ ผลลบจากโปรโมชั่นลดค่าเครื่องในช่วงที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้ผลกำไรรายไตรมาสหดตัว YoY กว่า 6 ไตรมาส น่าจะทยอยหมดลงแล้ว หลังกำไรกลับมาเติบโตอีกครั้งในงวด 3Q60
  • โดยรวมการทยอยเติบโตของกำไรในอนาคตมีเสถียรภาพสุดในกลุ่มฯ เมื่อเทียบกับ DTAC ที่กำลังอยู่ระหว่างการจัดหาคลื่น (ใบอนุญาตส่วนใหญ่จะหมดอายุกลางปี 61) และ TRUE ที่คาดยังมีผลขาดทุนปกติจนถึงปลายปี 61 Bloomberg Consensus คาดการณ์กำไรปี 61 เติบโตมากสุดใน 3 รายที่ +8.2%YoY DTAC คาดกำไรหดตัว 29%YoY และ TRUE ยังคงขาดทุน ราคาเหมาะสมยังมี Upside 15%

หุ้นมีข่าว   

Analyst Meeting : III  

·        จากที่ประชุมผู้บริหารให้รายละเอียดผลประกอบการงวด 3Q60 มีรายได้เติบโต 3.4%YoY จากธุรกิจขนส่ง Chemical (23% ของรายได้) เติบโต 21%YoY ตามปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Airfreight (68% ของรายได้) ชะลอตัว 3%YoY หลังไปรษณีย์ไทยได้หยุดใช้บริการ ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโต 2.3%YoY ใกล้เคียงกับรายได้

·        ล่าสุดได้มีการทำสัญญากับลูกค้ารายใหม่ "Rizhao" มาในธุรกิจ Seafreight กอปรกับการเพิ่มเครื่องบินของ AAV (III เป็นนายหน้าให้บริการขนส่งสินค้าทางเครื่องบินแต่เพียงผู้เดียวของ AAV) น่าจะหนุนให้รายได้ปี 61 เติบโตได้ราว 10 – 15%YoY

·         ความเห็น เนื่องจากการให้บริการของ III ครอบคลุม Logistic Chain แทบทั้งหมดเป็นผลให้การได้รับลูกค้ารายใหม่ จะเป็นบวกต่อทุกธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ Current PER สูงถึง 41.12 เท่า น่าจะสะท้อนการเติบโตแบบ Organic growth ของบริษัทไปค่อนข้างมากแล้ว จึงแนะนำให้ติดตามการหาลูกค้ารายใหม่ๆก่อนคาดหวัง Upside เพิ่มในอนาคต

·         (+) TRC (ราคาปิด 1.04 ถือ ราคาเหมาะสม 1.35) PTT คาดจะรู้ผลประมูลท่อก๊าซฯ เส้นที่ 5 ส่วนที่ 2 มูลค่า 1 หมื่นล้านบาทในม.ค.61 หลังจะให้ยื่นราคาภายในธ.ค.60 ก่อสร้างเสร็จตามแผนปี 63

·         (+) PSTC (ราคาปิด 0.77 ราคาเหมาะสม 0.90 ยังไม่รวม dilution จาก PP) เตรียมคืนเงินกู้ กด D/E ลดฮวบเหลือ 0.77 เท่า จากปัจจุบัน 1.4-1.5 เท่า ส่องทิศทางธุรกิจปีหน้าติดเครื่องวิ่งต่อ เปิดกรุรับทรัพย์จาก "บริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด" เต็มๆหลังถือหุ้นใหญ่ 51% แย้มแผนโดดลงทุนพลังงานไซซ์ยักษ์ 50 MW

·         (+) BANPU ลุยหนักธุรกิจก๊าซธรรมชาติในอเมริกา ล่าสุดทุ่มอีก 3.5 พันล้านบาท คว้าแหล่งก๊าซ Marcellus กำลังผลิตอีก 52 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลให้ล่าสุดมี 6 แหล่งก๊าซในมือ กำลังผลิตรวม 201 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (ที่มา ทันหุ้น)

·        (+) TSF เตรียมขยายการลงทุนพัฒนาสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ป้ายโฆษณาบริเวณรอบตู้โทรศัพท์สาธารณะทั่วประเทศที่ได้สัมปทานจาก TOT ร่วมกับ บริษัท จี.ไอ.เอส พาร์ค จะเริ่มในปี 61 คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ประมาณกว่า 60 ล้านบาทต่อปีใน 100 จุดแรก และสามารถขายได้ถึง 900 จุด เพื่อเตรียมรองรับสัญญาโฆษณากทม.ที่จะสิ้นสุดในปี 61 (ที่มา อินโฟเควสท์)

·        (+) JWD คาดจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซียตั้งแต่เดือน ม.ค.61 หลังบริษัทย่อยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จ โดยเข้าลงทุนและถือหุ้นในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ คลังสินค้า คลังห้องเย็น บริหารจัดการซัพพลายเชน และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องในอินโดนีเซีย (ที่มา อินโฟเควสท์)