Retail Market Monitor (12 ธ.ค.60)

Retail Market Monitor (12 ธ.ค.60)

การรื้อฟื้นความสัมพันธ์อียู-ไทย และราคาน้ำมัน เป็นบวกต่อภาพระยะสั้น

ภาพรวมตลาดหุ้นโลกแกว่งตัวกรอบแคบ ระหว่างรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) 13 ธ.ค. ซึ่งตลาดคาดว่าจะเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ทั้งนี้ตลาดอาจผันผวนจากแรงทำกำไรระยะสั้น หุ้นไทยยังอยู่ในแนวโน้มแกว่งตัว 1690-1720 อย่างไรก็ตามคาดอาจเคลื่อนไหวโดดเด่นกว่าเอเชียและหุ้นโลกในระยะสั้นจากการที่สหภาพยุโรป (EU) ประกาศกลับมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กับไทยอีกครั้งเนื่องจากกลับสู่การเดินหน้าเลือกตั้งที่จะมีความชัดเจนมากขึ้นในปี 2561 และจากสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานการพบรอยแตกที่ท่อส่งน้ำมัน Forties ในทะเลเหนือ (450,000 บาร์เรล/วัน) ส่งผลให้ต้องปิดทำการเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และจากความกังวลก่อการร้ายจากเหตุระเบิดในย่านไทม์สแควร์ เมืองแมนฮัตตันสหรัฐฯ ซึ่งมีโอกาสเป็นบวกต่อการเคลื่อนไหวของหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี อาทิ PTT, PTTEP, IVL, PTTGC, IRPC

Investment Theme 1) หุ้นใหญ่พลังงาน-ปิโตร PTT, PTTEP, PTTGC, IVL, IRPC 2) การลงทุน EEC และโครงสร้างพื้นฐาน AMATA, TICON*, WHA*, PYLON, SEAFCO*, TCJ*, CRANE* 3) หุ้นที่ยังมีการถือครองน้อย อาทิ PRM*, SSP* 4) การบริโภคฟื้นตัว CPALL, ROBINS, TK 5) หุ้นเก็งกำไรที่น่าสนใจ IVL, MILL*, PSH, BCH, TMB, TU, RATCH, SGP*, THCOM, MCOT*

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 1690-1720 เน้นเลือกหุ้นรายตัว (selective buy) ขนาดใหญ่ ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนสถาบัน // หุ้นแนะนำ PTT, IRPC, PTTGC

แนวรับ 1695-1700  / แนวต้าน : 1710-1715 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

โภคภัณฑ์ ราคาน้ำมันปรับขึ้นหลังมีประกาศว่าท่อส่งน้ำมันขนาดใหญ่ของอังกฤษจะปิดซ่อมแซมเป็นเวลาหลายสัปดาห์รวมถึงการเกิดเหตุก่อการร้ายย่านไทม์สแควร์ของสหรัฐฯวานนี้ / ค่าระวางเรือ (BDI) ปิดที่ 1,727 จุด (+1.47%) / ถ่านหิน Newcastle ปิดที่ 98.05 เหรียญต่อตัน (+0.51%)

อังกฤษ และ อียู บรรลุข้อตกลงใน 3 ประเด็นหลัก - ได้แก่ 1.วงเงินที่อังกฤษต้องชำระให้กับอียูก่อนการแยกตัว (BREXIT), 2.ประเด็นสิทธิพลเรือน, 3.ประเด็นเขตแดนของไอร์แลนด์หลังการแยกตัว โดยหลังจากนี้ยังคงต้องคอยติดตามการเจรจาในขั้นที่ 2 ต่อไป

ตัวเลขการค้าจีนเดือน พ.ย. ขยายตัวดีกว่าคาด กรมศุลกากรจีนรายงานยอดส่งออกขยายตัว 12.3% yoy หลังความต้องการในต่างประเทศขยายตัวดี ขณะที่ยอดนำเข้าขยายตัว 17.7% yoy สะท้อนถึงการเติบโตของความต้องการภายในประเทศจีน ส่งผลให้ดุลการค้าจีนเกินดุล 263.6 พันล้านหยวน (40 พันล้านดอลลาร์)

AIIB อนุมัติเงินกู้โครงการแรกในจีน – ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) อนุมัติเงินกู้ครั้งแรกให้กับโครงการในจีน มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการเชื่อมบ้านเรือน 216,750 ครัวเรือน เข้ากับระบบจ่ายก๊าซธรรมชาติ คาดช่วยลดการพึ่งพาถ่านหินของจีนลงและเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น

EU ประกาศรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับไทย – คณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป (EU) มีข้อสรุปให้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการเมืองกับรัฐบาลทหารของไทยในทุกระดับหลังนายกฯประยุทธ์ให้คำมั่นว่าจะจัดการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.61 เพื่อปูทางไปสู่การเจรจาที่สำคัญของผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

คมนาคมเสนอ ครม. ไฟเขียวไฮสปีด ไทย-จีน รมว.คมนาคมเตรียมเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีนเข้า ครม. วันนี้เพื่อขออนุมัติการก่อสร้างเฟสแรก ระยะทาง 3.5 กม. (กลางดง-ปางอโศก) และเริ่มตอกเสาเข็มในวันที่ 21 ธ.ค.นี้

 

ประเด็นติดตาม: 13 ธ.ค. US – FOMC meeting / 14 ธ.ค. EU – ECB meeting, UK – BOE meeting, TH - กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก SPP Hybrid Firm / 20 ธ.ค. TH – ประชุม กนง. / 29 ธ.ค. TH – ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่SET10ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)