ระเบิดแมนฮัตตันหนุนราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้น

ระเบิดแมนฮัตตันหนุนราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐ ปิดตลาดวันจันทร์ (11ธ.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวขึ้น หลังเกิดเหตุระเบิดในย่านไทม์สแควร์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในด้านภูมิรัฐศาสตร์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.1%  ปิดที่ราคา 57.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ราคา 64.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ เกิดเหตุระเบิดที่สถานีรถประจำทางในแมนฮัตตัน โดยตำรวจนิวยอร์กสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง วัย 27 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการที่ไปป์บอมบ์ที่เขาทำขึ้นเกิดระเบิดขึ้นมา

นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์ก กล่าวว่า เป็นความพยายามก่อการร้าย ส่วนตำรวจระบุว่า นอกจากผู้ก่อเหตุระเบิดได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 3 คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ขณะที่เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 751 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และสูงกว่าระดับ 498 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

เบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา

การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 และใกล้เคียงระดับการผลิตของรัสเซีย และซาอุดิอาระเบีย