แนวโน้มค่าตอบแทนปี61‘คงที่’ อัตราเปลี่ยนงาน‘พุ่ง’

แนวโน้มค่าตอบแทนปี61‘คงที่’ อัตราเปลี่ยนงาน‘พุ่ง’

โครงการสำรวจค่าตอบแทนและสวัสดิการของ เอออน ฮิววิท มีองค์กรเข้าร่วมสำรวจกว่า 1,700 องค์กร จาก 180 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศไทยมีการเก็บข้อมูลเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ค. ปีนี้มีองค์รเข้าร่วมสำรวจทั้งหมด 132 องค์กรทุกกลุ่มอุตสาหกรรม

ภาณุวัฒน์ เบ็ญเราะมาน พาร์ทเนอร์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอออน ฮิววิท ประเทศไทย ผู้ให้บริการด้านบริหารความเสี่ยง การประกันภัยและที่ปรึกษาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล กล่าวว่าได้จัดทำโครงการสำรวจค่าตอบแทนและสวัสดิการ ปี2560  โดยผลการสำรวจชี้ว่าอัตราการเพิ่มเงินเดือนในปีนี้ อยู่ที่ระหว่าง 4.7-5.9%

ทั้งนี้ อัตราเฉลี่ยการขึ้นเงินเดือนอยู่ที่ 5.3% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราเดิมปี 2561  สิ่งที่น่าสนใจคืออุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ มีอัตราการเพิ่มเงินเดือนปี 2561 ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2% เนื่องจากบริษัทอสังหาฯ หลายรายมีการขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ มากขึ้น โดยเฉพาะกิจการที่เกี่ยวข้องกับการรักษาสุขภาพหรือธุรกิจที่อาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากขึ้น

อย่างไรก็ตามผลการปฏิบัติงานยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาค่าตอบแทน โดยพนักงานที่มีผลงานโดดเด่น (Top Performers) ได้รับการตอบแทนด้วยการขึ้นเงินเดือนและโบนัสที่สูงกว่าทั่วไป แต่พนักงานที่มีศักยภาพสูง (High-Potential) มักได้รับการตอบแทนด้วยความก้าวหน้าทางอาชีพ

ผลการศึกษายังบ่งชี้เพิ่มเติมว่า อัตราการลาออกในปี 2560 เพิ่มขึ้นมาที่ 16.6% จาก 16.3% และ 13.5% ในปี 2559 และ 2558 ตามลำดับ เนื่องจากตลาดแรงงานมีการขยายตัวสูงขึ้น และคนรุ่นใหม่ที่ก้าวในโลกการทำงานเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลง

ตัวบ่งชี้อื่นๆ จากการสำรวจและวิจัยเรื่องการวัดค่าตอบแทนโดยรวมในประเทศไทยปี 2560 ยังประกอบไปด้วย  โบนัส 2.02 เดือน หรือ 16.81% ของเงินเดือน 12 เดือน  อุตสาหกรรมเคมีมีอัตราการเพิ่มเงินเดือนปี 2560 สูงที่สุดที่ 5.9%  อุตสาหกรรมโรงแรม ท่องเที่ยวและอาหารมีอัตราการเพิ่มเงินเดือนต่ำที่สุดที่ 4.7%

ขณะที่เปอร์เซ็นต์การจ่ายค่าตอบแทนแบบแปรผันเทียบค่าตอบแทนรวมอยู่ที่ 8.5% สำหรับพนักงานระดับสนับสนุน, 15% สำหรับพนักงานระดับเจ้าหน้าที่และผู้จัดการ และ 18% สำหรับระดับบริหาร

พบว่า 45% ขององค์กรมีสวัสดิการช่วยให้คำปรึกษาเพื่อส่งเสริมสุขภาพทางการเงินแก่พนักงานทุกระดับ โดยเน้นในสามหัวข้อ ได้แก่ การวางแผนการลงทุน การวางแผนการเกษียณ และการวางแผนด้านภาษี

สวัสดิการ 5 อันดับแรกที่องค์กรให้พนักงานในปี 2560 คือ 1. ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยใน 2. ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอก 3. ประกันอุบัติเหตุ 4. ประกันชีวิต และ5. สวัสดิการหลังเกษียณ โดยเฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  

ส่วนสวัสดิการที่องค์กรมีการใช้จ่ายเงินไปมากที่สุด 3 อันดับ คือ 1. รถยนต์บริษัทและค่าใช้จ่ายการเดินทาง 2. เงินยามเกษียณ และ3. ค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยนอก

ในช่วงที่ประเทศไทยมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพของธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นในปี 2561 องค์กรต่างๆ จึงต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการออกแบบกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทน การจ่ายเป็นตัวเงินนั้นไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้พนักงานมีความกระตือรือร้นอีกต่อไป องค์กรต้องเปิดโอกาสด้านความก้าวหน้าในสายอาชีพ ให้มีการเรียนรู้และได้พัฒนาตนเอง รวมไปถึงมีสวัสดิการต่างๆ ที่ตรงกับความต้องการของพนักงาน 

"ปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้พนักงานเห็นคุณค่าของสิ่งตอบแทนทั้งหมดที่ได้รับ ขณะเดียวกัน การมีค่าตอบแทนแบบแปรผันรวมอยู่ในค่าตอบแทนทั้งหมดจะช่วยกระตุ้นพนักงานให้มีผลงานดียิ่งขึ้น และยังช่วยลดรายจ่ายคงที่ขององค์กรอีกด้วย”