เตือนปชป.หยุดเรียกร้อง ส่วนพท.จี้ปลดล็อกพรรค

นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ว่าไม่จำเป็นต้องเรียกร้องให้รัฐบาล หรือผู้มีอำนาจปลดล็อกกิจกรรมทางการเมืองของพรรคการเมืองแล้ว เรื่องนี้ตนได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์แล้วว่าอย่าไปเรียกร้องเรื่องนี้อีก เพราะมีคนที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวอยู่แล้วและเขารู้เองว่าถ้าทำช้า และเกิดความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าเราไปเรียกร้องมาก จะทำให้ประชาชนที่รู้สึกเบื่อการเมืองและเกิดความรำคาญด้วย ตนขอให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจพิจารณาเองด้วยเหตุผลว่าภายใต้เงื่อนเวลาอะไรที่ต้องทำเมื่อไหร่ อย่างไร ดูให้เหมาะสม แต่หากเกิดอะไรขึ้นก็อย่าปฏิเสธความรับผิดชอบ

เมื่อถามถึงหน้าตาของว่าที่กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดใหม่ นายชวน กล่าวว่า “คนละรุ่น ผมไม่รู้จักเลย รู้จักเพียงผู้ว่าฯคนเดียว” เมื่อถามว่าคนที่จะมาทำหน้าที่นี้ควรมีประสบการณ์การเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ต้องดูที่องค์ประกอบของกฎหมายว่าทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ส่วนคุณสมบัติของแต่ละคนต้องดูแต่ละราย ตนคงไม่วิจารณ์ เพราะตอนนี้ขั้นตอนในการดำเนินการยังไม่เสร็จสิ้น

นายชวน กล่าวว่าเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ จึงต้องให้ความสำคัญกับระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการคานอำนาจระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติฝ่ายบริหารและตุลาการ ส่วนตัวยืนยันว่า ทั้งระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ และกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่อุปสรรคในการพัฒนาประเทศ แต่ตัวบุคคลที่เข้ามาทำงานอย่างไม่จริงใจและไม่มีความรักในประชาธิปไตยนั้น เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศมากกว่า

ด้านนายนิกร จำนง ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงโฉมหน้าของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดใหม่ ว่า คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ปัญหาสำคัญกกต.ชุดใหม่กับการเลือกตั้งและการบริหารแบบใหม่ จะไม่มีเวลาให้เป็นช่วงฮันนีมูนเลย เมื่อเข้ามาก็จะต้องลุยงานทันที สิ่งที่รออยู่อันดับแรกก็คือการเลือกตั้งท้องถิ่น ส่วนตัวตนมองว่าหากจะมีปัญหาก็ไม่ใช่มาจาก กกต. แต่เป็นเรื่องของงานมากกว่า เพราะชุดนี้เป็นชุดใหม่ทั้งหมดอีกทั้งเลขา กกต. ที่ถือเป็นนายทะเบียนของพรรคการเมืองก็ยังไม่มี ซึ่งตามกฎหมายใหม่ต้องรับผิดชอบพรรคการเมืองทั้งหมด อีกทั้งขณะนี้พรรคการเมืองก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย ซึ่งทุกอย่างเร็วมากก็อาจจะส่งผลต่อการทำงานได้ไม่ใช่ปัญหาของตัวบุคคล

เมื่อถามว่า การที่ กกต. ทั้งหมดเป็นชุดใหม่จะเป็นอุปสรรคหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า กกต. ทุกคนต้องเรียนรู้งาน ซึ่งเท่ากับว่าครั้งนี้ทุกอย่างใหม่ทั้งหมด ทั้งกกต. พรรคการเมือง กฎหมาย มองในทางกลับกันก็เป็นเรื่องดีที่เราได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในครั้งนี้ ครั้งต่อไปก็คงจะดีขึ้น ส่วนจะทำให้การเลือกตั้งไม่ราบรื่นด้วยหรือไม่นั้น วันนี้ตนยังบอกไม่ได้เพราะการเลือกตั้งแบบไพรมารีโหวตและสัดส่วนผสมที่มีการนับคะแนนแบบนี้มีที่เดียวในโลกเราไม่รู้จะเลียนแบบจากใคร จึงเห็นว่าต้องเตรียมตัวแก้ปัญหากันไว้ดีกว่า เพราะน่าจะมีปัญหาหาเกิดขึ้นแน่นอนไม่ทางใดก็ทางหนึ่งและอาจจะมีปัญหาแปลกๆที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างคือของใหม่

นายนิกร กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะปลดล็อกพรรคการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้งว่า เรื่องนี้มีวันเวลาของมันอยู่ โดยวันที่ 5 ม.ค.2561 ก็จะครบ 90 วัน เชื่อว่าทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช และรัฐบาลต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ตอนนี้เราก็เตรียมขอขยายเวลาจาก กกต.ตามสิทธิ์ เพราะเรารอไม่ได้ที่จะไปเสี่ยง

ทั้งนี้ประเด็นของการขยายเวลาไม่ว่าจะเป็น 90 วันหรือ 180 วัน สามารถขยายได้ตามกฎหมาย มีปัญหาเดียวคือวันเลือกตั้งขยายไม่ได้ เพราะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จะใช้คำสั่งคสช. หรือแก้กฎหมายก็ทำไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าหลังจากกฎหมายอีก 2 ฉบับที่เหลือเสร็จ อีก 150 วันหลังจากนั้นจะขยายไม่ได้ ก็จะมีปัญหากับพรรคการเมืองภายหลัง เพราะเวลาทำงานไม่เพียงพอ

ส่วนจะขอขยายเวลานานเเค่ไหนนั้น ต้องรอคำตอบจาก กกต.ภายในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ แต่คาดว่าคงจะขอขยายเวลาหลายวัน เพราะอย่างการเช็คจำนวนคนก็ต้องติดต่อกับสำนักทะเบียนราษฎร์โดยคิดต่อหัว หัวละ 10 บาท ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูง ซึ่งขอให้ ทาง กกต. ในฐานะนายทะเบียนขอไปทางทะเบียนราษฎร์มาแจกจ่ายให้กับพรรคการเมืองอีกครั้ง

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงอนาคตประเทศไทยภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ว่า เชื่อว่าปี2561 คงจะมีการเลือกตั้งอย่างที่รัฐบาลประกาศไว้ ขณะนี้ปัญหาของพรรคการเมืองคือ ต้องทำกิจกรรมหลายอย่างตามที่พ.ร.บ.พรรคการเมืองกำหนดให้พรรคต้องทำ บางอย่างกำหนดให้ต้องเสร็จภายใน 90 วัน หากไม่ทำหรือไม่ได้ทำก็เสี่ยงที่พรรคจะถูกลงโทษตามกฎหมาย อีกทั้งยังมีคำสั่งของคสช.ที่ยังไม่ปลดล็อกให้พรรคการทำกิจกรรมได้ หวังว่ารัฐบาลจะหาทางแก้ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ โดยไม่เสี่ยงที่จะทำผิดกฎหมาย เพราะการเลือกตั้งนั้นพรรคการเมืองต้องเตรียมตัวหลายอย่าง หากใกล้เวลาเกินไปอาจจะฉุกละหุก

เมื่อถามว่า ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 เดือนจะครบ 90 วัน ตามที่กำหนดในพ.ร.บ.พรรคการเมือง พรรคได้ดำเนินการอย่างไรไปบ้าง พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า เวลานี้ทำอะไรก็ระวังทุกอย่างเพื่อไม่ให้ผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องทะเบียนสมาชิกพรรคนั้น ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารต่างๆ ไว้แล้ว แต่การลงพื้นที่เพื่อพบปะสมาชิกนั้นเรายังไม่ได้ทำ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคมีสมาชิกประมาณ 130,000 คน เมื่อกฎหมายกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามไว้เข้มมาก พรรคจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ส่วนที่มีข้อเสนอว่า หากทำไม่ทันตามกรอบเวลาที่พ.ร.บ.พรรคการเมืองกำหนดไว้ ให้กกต.ยื่นเรื่องต่อสนช.เพื่อให้แก้ไขกฎหมายลูกนั้น พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า พรรคเคยทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าคสช.เพื่อให้พิจารณาปลดล็อกพรรคการเมือง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร ดังนั้นเรื่องแก้กฎหมายคงขึ้นอยู่กับรัฐบาล แต่จะต้องเป็นไปตามโรดแม็พเดิมที่วางไว้ด้วย