พบศพนิรนามไร้หัวในท่อระบายน้ำกลางเมืองภูเก็ต!!

เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า พบศพอยู่ภายในท่อระบายน้ำใต้ถนนบริเวณหน้าร้าน Hotel &Home innovation (ตรงข้ามร้านศรีเจริญยนต์) ถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาเข้าเมืองภูเก็ต ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.โสภณัฐ นายาว รองสว.(สอบสวน) สภ.ถลาง ได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐาภพ พงศาปาน รอง ผกก.สส., พ.ต.ต.สิริศักดิ์ หลีวิจิตร สวป.สภ.ถลาง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถลาง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

บริเวณริมถนนเทพกระษัตรีช่วงดังกล่าว พบประชาชนกำลังมุงดูเหตุการณ์และจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้มีกันประชาชนออกจากที่เกิดเหตุ พร้อมนำเชือกมากั้นเป็นแนวเขต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำงานสะดวก โดยได้มีการตรวจสอบบริเวณท่อระบายน้ำซึ่งมีตะแกรงเหล็กปิดอยู่ และมีกลิ่นเหม็นออกมาท่อน้ำคละฟุ้งไปทั่วบริเวณ

จากนั้นจึงได้ใช้ชะแลงงัดฝาท่อขึ้นมา และใช้ไฟฉายส่องลงไปดูภายในท่อระบายน้ำดังกล่าว พบว่ามีศพอยู่ภายในท่อระบายน้ำจริง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำศพขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ตรวจสอบพบเป็นเพศชาย สภาพศพเน่าเปื่อยไม่มีศรีษะ สวมเสื้อยืดแขนสั้น สวมกางเกงยีนส์ขายาวบริเวณข้อมือซ้ายมีริสแบน จำนวน 2 เส้น บริเวณต้นแขนซ้ายมีรอยสัก ไม่พบเอกสารแสดงตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ หลังเก็บรายละเอียดแล้วจึงนำศพส่งโรงพยาบาลถลาง เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

จากการสอบถาม นายมงคล กองแสง อายุ 35 ปี ชาว จ.เชียงราย พนักงานขับรถส่งของ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเขาได้มาจอดรถบริเวณดังกล่าว เพื่อไปทานข้าว และเมื่อทานเสร็จปรากฏว่าหากุญแจรถไม่เจอ คาดว่าน่าจะหล่นลงไปท่อระบายน้ำ จึงใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือส่องลงไปดู ปรากฏเห็นร่างคนนอนแช่อยู่ในน้ำ จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในที่สุดซึ่งหลังจากพบศพแล้วปรากฏว่าตนก็เจอกุญแจรถซึ่งตกอยู่ในบริเวณใกล้กัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบศีรษะของผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด เบื้องต้นคาดว่าน่าถูกฆาตกรรมตัดศรีษะแล้วนำมาทิ้งไว้ในท่อระบายน้ำ หรืออาจจะเป็นศพที่ลอยมาจากจุดอื่น โดยทางเจ้าหน้าที่ฯ จะได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลหลักฐานต่างๆ รวมถึงการแจ้งคนหายในพื้นที่และใกล้เคียง เพื่อหาว่าผู้ตายเป็นใคร และจะได้เร่งติดตามหาญาติมาสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป รวมทั้งจะได้ส่งมอบศพเพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ค Aek Jakrapong Boondao