เอาผิด 'จนท.ป่าไม้' เบียดบังของกลางไม้กฤษณา 65ล้าน

เอาผิด 'จนท.ป่าไม้' เบียดบังของกลางไม้กฤษณา 65ล้าน

เอาผิด“จนท.ป่าไม้” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เบียดบังของกลางไม้กฤษณา 65ล้าน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงกรณีนายฮัมราญ ฮาลาบี เจ้าของไม้กฤษณาร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐสับเปลี่ยนไม้กฤษณา มูลค่ากว่า 65 ล้านบาท ว่าได้รับรายงานข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อ 27 มี.ค.2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจบ้านควนมีด อ.จะนะ จว.สงขลา ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน พร้อมด้วยของกลางแก่นไม้กฤษณาเกรดชั้นเยี่ยม น้ำหนัก 13.20 กิโลกรัมมูลค่าประมาณ 65 ล้านบาท ต่อมาศาลจังหวัดนาทวีมีคำพิพากษาคืนไม้กฤษณาของกลางคืนแก่เจ้าของเดิมคือนายฮัมราญ ฮาลาบี อายุ 52 ปี แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ได้นำไม้กฤษณาของกลางมาคืนแก่นายฮัมราญ ต่อมานายฮัมราญยืนยันว่าไม่ใช่ไม้กฤษณาของกลางที่ตรวจยึดในวันเกิดเหตุ จึงไม่ขอรับของกลางกลับคืน

“ในคดีนี้ได้รับรายงานอีกว่าหลังจากที่มีการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.ควนมีด จว.สงขลา ได้ดำเนินการส่งไม้กฤษณาของกลางไปตรวจสอบที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ ภายหลังสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ได้มีการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นไม้กฤษณาจริง ซึ่งไม้กฤษณาของกลางถูกเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) จนศาลมีคำพิพากษาของกลางดังกล่าวยังเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) จนกระทั่งวันที่ 21 พ.ย.2560 ผู้กำกับการ สภ.ควนมีด จว.สงขลา ได้ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รักษาทรัพย์เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต” และได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้มาโดยตลอด”พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐเบียดบังหรือสับเปลี่ยนของกลางไว้แล้ว ได้สอบปากคำนายฮัมราญเจ้าของไม้กฤษณา เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจพิสูจน์ไม้กฤษณาของกลาง และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานมาโดยตลอดอย่างตรงไปตรงมา และยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย หากรวบรวมพยานหลักฐานเรียบร้อยแล้วจะสำนวนการสอบสวนส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป