BEAUTY - ถือ

BEAUTY - ถือ

หยุดพักสักครู่

ประเด็นการลงทุน

BEAUTY เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดในปีนี้ โดยนับตั้งแต่ต้นปีมูลค่าหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 78% และให้ผลตอบแทนมากกว่าตลาด 67% เนื่องจากกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งและการปรับเพิ่มประมาณการกำไรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราไม่คาดว่าผลตอบแทนในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะดีกว่าตลาด เนื่องจากราคาซื้อขายปัจจุบันที่ค่อนข้างสูง (PER ปี 2561 อยู่ที่ 38.4 เท่า สูงกว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานอยู่ 2.5) รวมถึงว่าเราไม่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรในเร็วๆนี้ ในทางตรงกันข้าม กำไรไตรมาส 4/60 อาจไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เราเคยคาดไว้ เมื่อรวมกับอัพไซต์จากราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ที่เพียง 2% เราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ จาก ซื้อ สำหรับนักลงทุนระยะยาว เราเชื่อว่า BEAUTY ยังคงคุ้มค่าต่อการถือไว้เนื่องจากมีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในระยะยาว

สะดุดเล็กน้อยในไตรมาส 4/60

ยอดขาย BEAUTY ในไตรมาส 4/60 อาจไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดไว้เดิมเนื่องจากยอดขายในช่วงเดือนต.ค.อ่อนตัวกว่าที่เราคาด แม้ว่ายอดขายจะกลับมาฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือนพ.ย.และมีโมเมนตัมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนธ.ค. แต่อาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะหนุนยอดขายในไตรมาส 4/60 ให้เติบโต QoQ อย่างที่เราและตลาดคาด จากที่เราเคยคาดว่า BEAUTY จะรายงานกำไรทำสถิติสูงสุดในทุกไตรมาสของปี 2560 อาจเป็นไปได้ยาก  ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2560 ลง 4% มาอยู่ที่ 1.17 พันล้านบาท

แนวโน้มการเติบโตระยะยาวยังคงน่าสนใจ

แม้ว่ากำไรในไตรมาส 4/60 จะเติบโตทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กำไรยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งประมาณ 97% เนื่องมาจาก 1) การเพิ่มจุดขายในร้านค้าโมเดิร์นเทรด (โดยเฉพาะใน King Power duty-free และ 7-Eleven), 2) ยอดขายต่างประเทศเติบโตแข็งแกร่ง และ 3) ฐานต่ำในเดือนพ.ย.-ธ.ค 2559 ทั้งนี้ การเพิ่มจุดขายในร้านค้าโมเดิร์นเทรดและการขยายไปต่างประเทศจะเป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโตให้ต่อเนื่องไปในปี 2561 เมื่อเร็วๆนี้ BEAUTY เพิ่มจุดขายในร้าน Boots 145 สาขา จากทั้งหมด 272 สาขา ในขณะที่โปรแกรม CRM สำหรับผู้ประกอบการค้าส่งในประเทศจีนน่าจะเริ่มส่งผลดีในปีหน้า เราคาดยอดขายการส่งออกไปยังประเทศจีนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไตรมาส 2/61-3/61

ตลาด CLMV อาจเป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโตในปี 2561

ภูมิภาค CLMV มีศักยภาพที่ดี แต่ยอดขายและการขยายตัวในแถบประเทศเหล่านี้เติบโตได้น้อยในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าผู้จัดจำหน่ายซึ่งครอบคลุมทั้ง 4 ประเทศ ไม่มีความเข้าใจต่อพฤติกรรมการบริโภคที่ลึกและมากพอ ดังนั้น BEAUTY ตัดสินใจไม่ต่อใบอนุญาตหลังหมดอายุในปลายปี 2560 นี้ และออกใบอนุญาตให้แก่ผู้จัดจำหน่ายท้องถิ่นรายใหม่ (หนึ่งผู้จัดจำหน่ายต่อหนึ่งประเทศ) ทั้งนี้ทุกสาขาในประเทศเหล่านี้จะต้องปิดตัวลงแต่ผลกระทบจะมีเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น เนื่องจากตลาด CLMV คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของยอดขายรวม เราเชื่อว่าผู้จัดจำหน่ายรายใหม่จะสามารถขยายธุรกิจได้ดีกว่าเดิม เนื่องจากมีความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคดีกว่า