ประชารัฐถกคลังขอตั้งจุดคืนภาษีที่จุดขายดึงทัวริสต์

 ประชารัฐถกคลังขอตั้งจุดคืนภาษีที่จุดขายดึงทัวริสต์

ประชารัฐท่องเที่ยว-ไมซ์ พบ รมว.คลัง ขอพิจารณาตั้งจุดคืนภาษี ณ จุดขาย  มั่นใจกระตุ้นนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่ม เข้าถึงผู้ให้บริการทุกระดับ เชื่อสัญญาณดีคลังตอบรับในหลักการ เล็งนำร่อง 2-3 จุดทดสอบระบบ

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่าได้เป็นตัวแทนในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ พร้อมนายชนินทธ์ โทณวณิก รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะหัวหน้าทีมภาคเอกชน ประจำคณะทำงานสานพลังประชารัฐด้านท่องเที่ยวและไมซ์ (D3) เข้าประชุมร่วมกับ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้พิจารณาแนวคิดการตั้งจุดคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ณ จุดจำหน่ายสินค้าในเมือง (Downtown VAT Refund) ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแนวคิดที่เคยเสนอไปแล้ว ให้นำกลับมาทบทวนอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีประเทศชั้นนำต่างๆ  เช่น ญี่ปุ่น และอังกฤษ สามารถดำเนินการเป็นรูปธรรมมาแล้ว

ทั้งนี้ การตั้งจุดคืนภาษี ณ ร้านค้า หรือในเมือง  ไม่จำกัดอยู่เฉพาะสนามบินนานาชาติเท่านั้น    มั่นใจว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายกระจายถึงทุกกลุ่มแบบเห็นผลโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันจุดคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มนักท่องเที่ยวจะอยู่บริเวณผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเข้าสู่เขตปลอดภาษีระหว่างรอขึ้นเครื่องบินกลับบ้านแล้วเท่านั้น ดังนั้น หากมีเงินเหลือก็จะจับจ่ายได้แต่โซนปลอดภาษี แต่หากมีจุดคืนภาษีในเมือง หรือได้คืนทันทีเมื่อซื้อสินค้า การจับจ่ายจะกระจายวงกว้าง ไปยังร้านอาหาร ร้านค้า ทุกระดับได้มากขึ้น

สำหรับการเสนอคืนภาษีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาครั้งนี้ เสนอให้คืนเป็นสกุลเงินบาท แม้จะมีการหักค่าธรรมเนียม ค่าบริหารจัดการ เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับคืนเป็นสกุลเงินไทย เชื่อว่าจะเกิดแรงจูงใจให้ใช้จ่ายต่อเนื่องระหว่างการท่องเที่ยว"

"เมื่อนักท่องเที่ยวได้รับคืนเงินสกุลบาทจะสามารถซื้อสินค้าและบริการด้วยเงินสด ซึ่งหมายความว่าเงินนั้นจะลงถึงผู้ประกอบการรายเล็ก อาทิ ถั่วต้มขนมของแม่ค้า หรือชอปปิงสินค้าอื่นๆ ต่อ โดยรวมทำให้พ่อค้าแม่ค้าคนไทยมีโอกาสได้ประโยชน์จากเงินคืนภาษีของชาวต่างชาติมากขึ้น”

สำหรับผลการหารือครั้งนี้ กระทรวงการคลังเข้าใจจุดประสงค์ดี และตอบรับในหลักการ รวมถึงให้แนะนำให้มีคณะทำงานร่วมเพื่อหาทางดำเนินการทำระบบเป็นการทดลอง 3-4 จุดในเมือง เพื่อประมวลผลตอบรับ ได้สรุปข้อจำกัดทางเทคนิคที่มีเพื่อร่วมพัฒนาระบบต่อเนื่อง โดยจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเอกชน กรมสรรพากร โดยเอกชนสนใจที่จะเป็นผู้ลงทุนระบบเอง เพื่อเป็นการทดสอบและแบ่งปันข้อมูลสถิติร่วมกัน