'บิ๊กป้อม' สยายปีก คุมกีฬางบ4พันล้าน!

เพราะล่าสุดจากการแบ่งงานรองนายกฯใหม่ หลังปรับ ครม.บิ๊กตู่ 5 ปรากฏว่า พล.อ.ประวิตร ได้รับผิดชอบกำกับดูแลงานด้านการกีฬา ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการคุมงบกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งแต่ละปีสูงถึง 4,000 ล้านบาทด้วย

เรื่องนี้ต้องย้อนความกันนิดหนึ่ง คือ ตามพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 กำหนดให้เงินรายได้จากภาษีสรรพสามิตด้านสินค้าสุราและยาสูบ หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ภาษีบาป” ต้องจัดสรรเป็นงบประมาณสนับสนุนให้กับ “กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ” ในอัตราร้อยละ 2 เมื่อคิดเป็นตัวเงินแล้วก็ประมาณ 4,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสิบเท่าเมื่อเทียบกับช่วงปี 2550-2557 ที่วงการกีฬาไทยได้รับงบประมาณสนับสนุนเพียงปีละ 200-400 ล้านบาทเท่านั้น

เหตุนี้จึงทำให้หลายฝ่ายต้องการเข้ามามีบทบาทในวงการกีฬามากขึ้นไปด้วย

ล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังถูกตั้งคำถามว่ากำลังสยายปีกเข้ามาคุมวงการกีฬาไทย ผ่านทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติด้วยหรือไม่ เพราะพล.อ.ประวิตร เพิ่งได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้ดูแลงานเพิ่มอีก 2 ด้านจากการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีใหม่ หลังปรับ ครม. คือ เป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. / และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

นี่ไม่นับรวมถึงตำแหน่งอื่นๆ ในวงการกีฬาก่อนหน้านี้ที่นั่งอยู่แล้ว เช่น นายกสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เป็นต้น

เมื่อปีก่อน “บิ๊กป้อม” ได้รับการปูทางให้เข้าสู่วงการกีฬาเต็มตัว หลังจาก พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อุปนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ผลักดันให้ขึ้นเป็นนายกสมาคมว่ายน้ำฯคนใหม่ จากนั้นในเดือน มี.ค. เมื่อ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ประกาศวางมือ ก็ได้ทาบทามให้ “บิ๊กป้อม” เข้ารับตำแหน่งแทน ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะได้รับตำแหน่งประธานอีก 2 บอร์ด คือบอร์ด กกท. และบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

ทำให้วันนี้ พล.อ.ประวิตร กำลังจะมีบทบาทครอบคลุมแทบทุกด้านในวงการกีฬา ทั้งสมาคมกีฬา, กกท., โอลิมปิกแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ

สำหรับงานใหม่ทั้งสองด้าน คือ ประธานบอร์ด กกท. และประธานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มีบทบาทเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารเงินงบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อนำไปสนับสนุนวงการกีฬาทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติงบประมาณให้แต่ละสมาคมกีฬา การส่งนักกีฬาไปแข่งขันในมหกรรมกีฬาต่างๆ รวมถึงเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

เหตุนี้เอง “บิ๊กป้อม” จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษว่าจะจัดสรรงบประมาณให้สมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ที่ตัวเองเป็นนายกสมาคมฯ อย่างเหมาะสมหรือไม่

อีกตำแหน่งหนึ่งคือประธานบอร์ด กกท. ก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน เพราะ บอร์ด กกท. คือส่วนงานโดยตรงที่เป็นผู้วางนโยบายและยุทธศาสตร์ทั้งหมดของวงการกีฬา และยังมีหน้าที่โดยตรงในการประเมินผลการปฏิบัติงานของ “ผู้ว่าฯกกท.” และมีบทบาทในการสรรหา “ผู้ว่าฯกกท.” คนใหม่ด้วย

เรียกว่า ผู้ว่าฯ กกท. ก็ไม่ต่างอะไรกับ “ลูกไก่ในกำมือ” ของ “บิ๊กป้อม” เช่นกัน?

พูดกันให้ชัดๆ ก็คือ ตอนนี้วงการกีฬาไทยอยู่ในมือ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” ไปแล้ว แบบนี้ต้องบอกว่า ให้มันรู้ว่าไผเป็นไผ...!??