ECL - ซื้อ

ECL - ซื้อ

Big Growth On Big Bike

ประเด็นการลงทุน

ยอดขายรถ Big Bike และรถยนต์ จากงาน Motor Expo ที่คาดว่าจะเติบโตสูงในปีนี้ เพราะรอบนี้มีการเปลี่ยนรุ่น และออกสินค้าใหม่ เพิ่มขึ้น เรามองเป็นปัจจัยบวกระยะยาวต่อธุรกิจ ECL เพราะการ ซื้อ หรือเปลี่ยน รถยนต์และรถ Big Bike ในตลาดมือสอง จะเกิดการขยายตัวสูงขึ้นตามหลังจากนี้ โดย ราคาหุ้นที่ปิดเมื่อวาน สะท้อน P/E ปี 2017-18 ที่ 28 และ 16 เท่า ในขณะที่กลุ่ม (MTLS SAWAD JMT) เทรด PE เฉลี่ยปี 2017-18 ที่ 30 และ 23 เท่า ตามลำดับ ซึ่งราคาหุ้นที่ลงมา สวนทางกับพื้นฐานผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีตลอดปีนี้ และจะมีพัฒนาการทางธุรกิจที่ดีขึ้นมากในปีหน้า จึงเป็นโอกาสในการ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ปี 2018 ที่ 8 บาท

ยิ่ง Big bike ขายดี ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ ECL ยิ่งมี Upside

ตัวเลขยอดขายรถยนต์ และ รถ Big Bike ในงาน Motor Expo ที่จะมีการสรุปตัวเลขในสัปดาห์หน้า จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีผู้ให้ความสนใจในงาน Motor Expo 2017 เป็นจำนวนมาก (7 วันที่ผ่านมายอดจองรถยนต์อยู่ที่ 16,568 คัน Vs. ปี 16 ยอดขายจนจบงานอยู่ที่ 3.2 หมื่นคัน ยอดเงินรวม 4.5 หมื่นล้านบาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วน Big bike ที่มีการออกรุ่นใหม่ และการทำการตลาดที่มากขึ้นของผู้ประกอบการ คาดการเปลี่ยนรถ Big Bike ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อยอดสินเชื่อรถ Big Bike มือสอง ของบริษัทฯ ซึ่ง ECL มีส่วนแบ่งตลาดรถ Big Bike มือสอง ถึง 35% (เป็นเบอร์ 2 ในตลาด ส่วนแบ่งตลาดของเบอร์ 1 อยู่ที่ 45%) โดยคาดยอดสินเชื่อ Big Bike ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลบวกต่อกำไร เพราะ Big Bike มือสอง ให้ส่วนต่างดอกเบี้ยที่มากกว่ารถยนต์มือสอง

สินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง พร้อมด้วยคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง

ปี 2018 เราคงคาดยอดสินเชื่อ เติบโตเป็น 7,100 ล้านบาท หรือเทียบเท่ากับการหาสินเชื่อใหม่ราว 300 ล้านบาท/เดือน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นเดือนละ 200-300 ล้านบาท เราจึงมั่นใจว่า กรณี Base case ยอดสินเชื่อ สิ้นปี 2017 จะเติบโตราว 90% เป็น 4.6 พันล้านบาทและปีหน้าเติบโตเป็น 7.1 พันล้านบาท นอกจากนี้ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ โดยมี NPL ที่ 3.13% เท่านั้น

Scope of Upside จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง

มีโอกาสที่ส่วนต่างดอกเบี้ยรับ จะดีกว่าสมมุติฐานของเราที่ 6.4% จากต้นทุนการเงินที่มีแนวโน้มลดลงจากการออกหุ้นกู้ โดย ECL เพิ่งรับการจัดอันดับจาก TRIS ที่ “BBB-” และเราคาดบริษัทจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงผ่านการออกหุ้นกู้จำนวน 1,200 ล้านบาท ที่บอร์ดบริหารเพิ่งอนุมัติไป นอกจากนี้บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่งจากงบฯ 3Q17 บริษัทมี D/E อยู่เพียง 1.81 เท่า นับว่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ใช้ D/E ราว 3-5 เท่า และถึงแม้ปีหน้าบริษัทจะมีการขยายสินเชื่อจำนวนมาก เราคาด D/E ปี 2018 จะอยู่ที่ 3 เท่า เท่านั้น

ความเสี่ยง: การใช้มาตรฐานบัญชี IFRS9 (เรามองไม่น่ากังวล)

บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมสำหรับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่ต้นปี 2019 แม้ปัจจุบันตลาดมีความกังวลด้าน coverage ratio ที่บริษัทมีน้อยกว่ากลุ่ม อย่างไรก็ดีหากนับรวมถึงสินเชื่อที่อยู่ระหว่างชั้นศาล บริษัทมี coverage ratio ประมาณ 75% ดังนั้นการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อให้มี coverage ratio เต็ม 100% จึงไม่มากอย่างที่ตลาดกังวล