นับถอยหลัง 'โอ๊ค' ต้องยื่นคำให้การแก้ข้อหาฟอกเงิน

นับถอยหลัง 'โอ๊ค' ต้องยื่นคำให้การแก้ข้อหาฟอกเงิน

"อธิบดีดีเอสไอ" เผย ใกล้ครบกำหนด 60 วัน "พานทองแท้" กับพวกต้องส่งคำให้การพร้อมพยานหลักฐานแก้คดีฟอกเงินกรุงไทย มั่นใจสรุปสำนวนก่อนครบอายุความ

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ซึ่งดีเอสไอได้แจ้งข้อกล่าวหานายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คน ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบฟอกเงินว่า หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอเวลา 60 วันในการยื่นเอกสารหลักฐานและคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจะครบกำหนดภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เมื่อพนักงานสอบสวนได้รับคำให้การจากผู้ต้องหาแล้วจะนำเข้าที่ประชุมเพื่อพิจารณาร่วมกันระหว่างพนักงานสอบสวนดีเอสไอและอัยการ เพื่อตรวจสอบว่าคำให้การสามารถหักล้างแก้ข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนได้หรือไม่ จากนั้นจะสรุปจำนวนให้เสร็จก่อนครบกำหนดอายุความ 15 ปี ในเดือนมิ.ย.61

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษออกหมายเรียก นางเกศินี จิปิภพ, นางกาญจนาภา หงษ์เหิน, นายวันชัย หงส์เหิน และนายพานทองแท้ เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหาในคดีฟอกเงินภาย ในวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าบุคคล 4 ราย ได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนก่อนกำหนด โดยเข้ารับทราบข้อหาในวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. โดยการรับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนั้นนายพานทองแท้ และผู้ต้องหารายอื่นๆ ได้เดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัว ขณะที่นางพินทองทา คุณากรวงศ์ และน.ส.แพรทองทา ชินวัตร เดินทางมาให้กำลังใจนายพานทองแท้ด้วย นอกจากนี้ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าทีมกฎหมายในคดีนี้ และนายพิชิต ชื่นบาน เข้าร่วมรับฟังการสอบปากคำด้วย

สำหรับคดีดังกล่าวเป็นผลมาจาก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ได้มีหนังสือถึงดีเอสไอเพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ และขอให้ดีเอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในเรื่องนี้มีจำนวน 10 ล้านบาท และ จำนวน 26 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 ต่อมาพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลจำนวน 4 คน ได้แก่ 1 นางเกศินี จิปิภพ 2 นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3 นายวันชัย หงส์เหิน และ 4 นายพานทองแท้ ชินวัตร ในข้อหา สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว