MORNING CALL ACTION NOTES (7 ธ.ค.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวันตามตลาดเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตามมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาในกลุ่ม ENERG และ ICT ช่วยพยุงดัชนี ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,694.39 จุด (-3.22 จุด) Volume 6.54 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -3,329.18 ลบ.  TFEX Net +9,411 สัญญา ตราสารหนี้ +1,893 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.

+สหรัฐประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี

+ สภาผู้ส่งออก คาดส่งออกปีนี้ขยายตัว 8.5-9% และขยายตัว 5% ในปี 61 สอดคล้องกับที่กกร.คาดการส่งออกปีนี้ 60 จะขยายตัวได้ประมาณ 9%

+ เม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF

-ดาวโจนส์ปิดลบ หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% ส่งผลให้มีแรงขายออกมาในกลุ่มพลังงาน

-น้ำมันปรับตัวลง หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว และแท่นขุดเจาะสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 แท่น สู่ระดับ 749 แท่น

-ทรัมป์ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาขายรวม 6 วันราว 7.5 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่า 32.64  Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.16 แสนสัญญา)

**8 ธ.ค. จับตาสถานการณ์ "ชัตดาวน์" สภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติการใช้จ่ายเพื่อให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารประเทศทันหรือไม่

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการส่งออกปี 60 ที่เติบโตดีสนับสนุนตัวเลข GDP ปีนี้   และเม็ดเงินจากกองทุน LTF RMF โดยมีปัจจัยลบจากความกังวลการเมืองสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แผ่วลง ราคาน้ำมันที่ปรับลง  และ fund flow ต่างชาติผันผวน   คาดวันนี้ SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,689-1,707 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- หุ้นที่มีโอกาส Window dressing SCB KTB PTTEP

- หุ้นได้ประโยชน์จากการปฏิรูปภาษีสหรัฐ IVL

- ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้นสู่ 1,670 +22% ภายใน 3 สัปดาห์ แนะนำ PSL

- SPP HYBRID ประกาศผล 14 ธ.ค. แนะนำ SSP PSTC

- ERW ปลัดท่องเที่ยว หนุนใช้มาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวไทยเที่ยวไทย

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TWPC JUBILE AMA

หุ้นแนะนำพิเศษ

SAWAD  (ราคาปิด 59.75 ซื้อเก็งกำไร Bloomberg Consensus เฉลี่ย 69.37)

• มีลุ้นเข้าคำนวณดัชนี SET50 ที่จะประกาศกลางเดือนธ.ค. และมีผลในช่วง 1H61
• ปัจจุบันมีสถานะเป็นบริษัทโฮลดิ้งถือหุ้น BFIT ซึ่งทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกัน และให้บ.ย่อยทำธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ในอนาคตบริษัทมีแผนถือหุ้น BFIT เพิ่มเป็น 70% จากปัจจุบัน 36.35% หนุนผลการดำเนินงานเติบโตจากการควบรวมงบการเงินกับ BFIT
• 9M60 มีกำไรสุทธิ 1,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39%  Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 6 พันลบ. +30% แนวโน้มกำไร 4Q60 ดีขึ้น QoQ จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น

หุ้นเริ่มซื้อขายวันแรก : THG (ราคา IPO 38บาท)ใน SET หมวดการแพทย์

• บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนในลักษณะโรงพยาบาลทั่วไปภายใต้ชื่อ "โรงพยาบาลธนบุรี" โดยประกอบด้วย 2 ธุรกิจหลัก คือ 1. ธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ โดยมีธุรกิจรักษาพยาบาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ (จีนและเมียนมา) 2. ธุรกิจการบริบาลผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ (Healthcare Solution Provider) ได้แก่ ธุรกิจรักษาพยาบาลนอกพื้นที่โรงพยาบาล ธุรกิจการให้การบริบาลและบ้านพักผู้สูงอายุและธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เครื่องเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์และทันตกรรม โดยสองธุรกิจหลักข้างต้นมีสัดส่วนรายได้ 93.13% และ 6.71% ตามลำดับ งวด 9M60 มีรายได้ 4,874 ลบ. เพิ่มขึ้น 4.56%YoY โดยมีกำไรสุทธิ 396 ลบ. ลดลง 2.22%YoY มีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากการลงทุนในกิจการร่วมค้าในต่างประเทศที่ขาดทุน 96 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 71 ล้านบาทใน 9M59
• เงินทุนที่ได้จากการเสนอขาย IPO มูลค่า 3,230 ลบ. หลักๆใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน จำนวน 2,000-2,500 ลบ. และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 700-1,200 ลบ.จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้โครงการในอนาคตได้แก่ โครงการขยายกำลังการให้บริการของรพ.ธนบุรีและรพ.ธนบุรี 2 และเปิดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพธนบุรีที่ถ.บำรุงเมืองราวปี 61
• ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 62.48 เท่า เทียบกับกลุ่มซึ่งมีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 40.22 เท่า

หุ้นมีข่าว   

·        KTB (ราคาปิด 19.40 Bloomberg Consensus 20.30) เผยหนี้เสียรอบนี้ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนการสำรองหนี้เสียไตรมาสสุดท้ายปีนี้ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า พร้องแจงแผนงานปี 2561 หลังกลางเดือนนี้ ส่วนกรณี EARTH ยังเป็นไปตามกระบวนการ และมีบางประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ความเห็น KTB เป็นแบงก์รัฐที่ได้ประโยชน์จากการเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่กระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งน่าจะเห็นการเติบโตของสินเชื่อกระเตื้องขึ้นในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าที่มีการเซ็นสัญญาผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่  คาดจะเห็นสินเชื่อเร่งตัวขึ้นจาก 10M60 ที่หดตัว 0.15%YTD ด้านผลการดำเนินงาน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 2.6 หมื่นลบ. ลดลง 19%

·        COMAN (ราคาปิด 7.30 ซื้อ ราคาเหมาะสม 8.25) ตั้งเป้าปี 61 รายได้โต 20% ต่อเนื่องจากปีนี้ รับปัจจัยบวกท่องเที่ยว-โรงแรมโต  เดินหน้าเจรจาซื้อกิจการ 1-2 รายระบบซอฟท์แวร์เกี่ยวข้องท่องเที่ยว-ทัวร์-จองตั๋วสรุปปี 61

·        TPCH (ราคาปิด 14.50 ราคาเหมาะสม 21.74 อยู่ระหว่างปรับประมาณการลง) ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 30% จากปีนี้ ก่อนโตก้าวกระโดดในปี 62 ตามกำลังผลิตเพิ่ม

·        TPOLY ได้งานก่อสร้างโรงแรม Novotel Marina Bay Sriracha มูลค่า 312.44 ลบ. ระยะเวลาก่อสร้าง 1 ต.ค.60 - 31 ก.ค.62

·        WORLD เปิดเผยว่า บริษัทมีสภาพคล่องที่เกิดจากเงินสดจำนวน 1,730 ล้านบาทหลังจากได้ขายธุรกิจการศึกษา ซึ่งกำลังพิจารณานำมาใช้ในการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุนในโครงการทาวน์โฮมมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท เป็นโครงการแรกในปี 61 คาดว่าจะได้ผลสรุปในเร็ว ๆ นี้

·        MALEE ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต 30% จากการปั๊มโปรดักต์ใหม่ผนึกแผนการตลาด พร้อมลุยตลาดต่างประเทศ แย้มอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรใน-นอกหวังชัดเจนเร็วๆนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

·        SENA เผยปี 61 เตรียมเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่า 1 หมื่นลบ.โดยจะเริ่มเปิดโครงการตั้งแต่ 1Q61 เพื่อให้มียอดโอนรอรับรู้ในปี 62-63 ด้านธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์  บริษัทมีรายได้จากธุรกิจโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟบนหลังคาโดยมีแผนจะขยายกำลังการผลิตธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม แต่ยังรอความชัดเจนจากนโยบายภาครัฐก่อน ส่วนธุรกิจโซลาร์รูฟบนหลังคาปัจจุบันรับติดตั้งให้กับร้าน 7-11จำนวน 8 สาขาติดตั้งแล้ว 4 สาขา และรับรู้รายได้แล้ว 1 สาขา ตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีขนาด 20 กิโลวัตต์/สาขา ใช้งบลงทุนในการติดตั้งสาขาละ 1 ล้านบาท สามารถทำรายได้ 1.2 แสนบาท/ปี คาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10 ปี เบื้องต้นมีการตอบรับที่ดี โดยประเมินความคุ้มค่าและทำสัญญากับเครือเจริญโภคภัณฑ์  ต่อไปเพื่อติดตั้งเพิ่มอีกราว 200 กว่าสาขา (ที่มา อินโฟเควสท์)