5นักค้าไร่อ้อยแห่แจ้งจับ 'สาวโคกรัง' คดีเชิดเงินหนีเกือบ8แสน

5นักค้าไร่อ้อยแห่แจ้งจับ 'สาวโคกรัง' คดีเชิดเงินหนีเกือบ8แสน

สุดแสบ! สาวใหญ่บ้านโคกรัง อ.เอราวัณ จ.เลย คดีทำสัญญาเช่าไร่อ้อยแปลงเดียวกัน ให้ "5เถ้าแก่" ผู้ค้ารายย่อยรับซื้ออ้อย รวมเสียหายเกือบ8แสนบาท ก่อนเชิดเงินหนี เผยนัดเจรจากลับเงียบ เชื่อทำเป็นขบวนการ ลุยตร.เร่งดำเนินคดีโดยด่วน

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2560 นางช่อเพ็ชร บาลลา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 4 ต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย พร้อมด้วยนางอรชร ศรีจำปา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20หมู่ 1 ต.ท่าสวรรค์ ต.ท่าสวรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย, นายไพศาล พันธ์พวง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/2 หมู่ 9 ต.ทุ่งคา อ.สวี จ.ชุมพร, นางละเอียด เวชบรรพต อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 1 ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย และนางบุญเรือง คำหาญ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ 4 ต.ท่าสรรค์ อ.นาด้วง จ.เลย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เอราวัณ จ.เลย แจ้งความว่า น.ส.กชกร สาริยา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 7 บ้านโคกรัง ต.เอราวัณ อ.เอาราวัณ จ.เลย ได้ทำสัญญาซื้อขายอ้อย และสัญญาเช่าซื้อ สัญญากู้ยืมเงินกับหลายทาง จึงได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันว่า น.ส.กชกร สาริยา จะคืนเงินที่ได้กู้ยืมเงินไปให้แก่คู่กรณีทั้ง 5 คน โดยจะนำมาชำระในวันที่ 30 พ.ย. 60

ประกอบด้วย 1.นางช่อเพ็ชร บาลลา จำนวน 70,000 บาท, 2.นางอรชร ศรีจำปา จำนวน 150,000 บาท 3.นายไพศาล พันธ์พวง จำนวน 270,000 บาท 4.นางละเอียด เวชบรรพต จำนวน 220,000 บาท และ5.นางบุญเรือง คำหาญ จำนวน 20,000 บาท รวมเป็นเงิน 730,000 บาท หากพ้นกำหนดน.ส.กชกร ไม่นำเงินมาชำระคู่กรณีจะดำเนินตามกฎหมายต่อไป

โดยนางช่อเพ็ชร บาลลา กล่าวว่า ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายอ้อย และสัญญาเช่าซื้อกับน.ส.กชกรนั้น ตนได้รู้จักกับน.ส.กชกร ผ่านเพื่อนบ้านที่อาศัยในละแวกเดียวกัน โดยเพื่อนบ้านคนดังกล่าวเป็นเพื่อนของน.ส.กชกรสมัยเรียนมัธยมปลาย ซึ่งน.ส.กชกร อ้างว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน ด้วยสีหน้าท่าทางของน.ส.กชกรแล้วไม่น่าจะมีพิษมีภัย เหมือนเป็นคนซื่อๆ เลยเชื่อใจ ประกอบกับตนก็เป็นคนรับซื้ออ้อยอยู่แล้วเลยไม่ได้เอะใจอะไร จึงตกลงเข้าไปสำรวจไร่อ้อยด้วยกันก่อนจะตัดสินใจทำสัญญาซื้อขายอ้อยเป็นที่เรียบร้อย แต่ 2 วันต่อมามีนางอรชร ซึ่งเป็นญาติกันเล่าให้ฟังว่า ได้ไปทำสัญญาซื้อขายอ้อยที่บ้านโคกรัง ต.เอราวัณ อ.เอาราวัณ จ.เลย กับน.ส.กชกร ตนจึงเอะใจว่าใช่แปลงเดียวกันหรือไม่ พอสอบถามกันจึงรู้ว่าเป็นไร่อ้อยแปลงเดียวกัน ซึ่งต่อมาก็ได้ข่าวว่ามีผู้รับซื้ออ้อยหลายเจ้าก็โดนน.ส.กชกรทำสัญญาซื้อขายอ้อยเช่นเดียวกัน ตนจึงได้เข้ามาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

ด้านนางอรชร กล่าวว่า หลังครบกำหนดตามสัญญา (30 พ.ย. 60) ตนได้พยายามติดต่อน.ส.กชกรหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่มีบุคคล บุคคลหนึ่งซึ่งอ้างตนเป็นครู ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.เลย ติดต่อเข้ามาว่าจะเป็นคนชำระหนี้ให้ทั้งหมด ขณะนี้กำลังเดินเรื่องทางการเงิน จะสามารถนำเงินมาให้ได้ภายในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ตนคิดว่าไม่มีความน่าเชื่อถือเพราะมีหลายคนที่ติดต่อเข้ามาเช่นนี้ อีกทั้งยังบอกว่าต้องทำพิธีบวงสรวงอะไรอีกก่อนจะนำเงินมาให้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นเพียงหน้าม้ามาหลอกซ้ำซ้อนกันอีก เชื่อทำเป็นขบวนการมีหลายคนที่เอี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่

ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค. 60) เวลา 08.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางช่อเพ็ชร บาลลาและผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยัง สภ.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย เพื่อขอเข้าพบกับร้อยเวร แต่วันนี้ร้อยเวรบอกว่าไม่ว่าง จึงนัดคุยกันอีกครั้งในวันเสาร์นี้ (10 ธ.ค. 60)