'กองปราบฯ'ล้อมกรุงเก่ากวาดล้างผู้ต้องหาซื้อกามเด็ก!!

'กองปราบฯ'ล้อมกรุงเก่ากวาดล้างผู้ต้องหาซื้อกามเด็ก!!

"กองปราบฯ" เปิด "ปฏิบัติการล้อมกรุงเก่า" กวาดล้างผู้ต้องหาซื้อกามเด็ก พร้อมรวบข้าราชการซี 7 อ้างไม่รู้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 14 จุด ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติมจากคดีเด็กหญิง อายุ 15 ปี ทีถูกอาเลี้ยงบังคับให้ขายบริการทางเพศในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อีกจำนวน 14 ราย ในข้อหา "พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร" โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังทั้งหมดออกเป็น 14 ชุดปฏิบัติการ ในการปฏิบัติการครั้งนี้

โดยชุดปฏิบัติการชุดแรกนำโดย พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.2บก.ป. ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายอโนทัย(สงวนนามสกุล)อายุ 50 ปี อาชีพขับวินจยย.ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาอาญาในข้อหา พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ซึ่งจับกุมได้ที่วินจยย. ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอยุธยา ทั้งนี้ในการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยซื้อบริการเด็กหญิงดังกล่าวจริง ในราคาครั้งล่ะ 500 บาท ซึ่งตนเองจะเป็นคนไปรับเด็กที่หอพักก่อนจะพาไปร่วมหลับนอนกันในโรงแรม อย่างไรก็ดียืนยันว่าไม่ได้ซื้อบริการผ่านแม่เล้าแต่อย่างใด ตนเองจะติดต่อกับเด็กโดยผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์

ด้าน พ.ต.ท.อนรรฆ ประสงค์สุข รองผกก.2บก.ป. นำกำลังอีกชุดขับรถตามสะกดรอย นายวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี นายช่างโยธาประจำสำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่ง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย , พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี จากบ้านพักใน อ.เสนา จนกระทั่งนายวุฒิ จอดรถที่สำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่งจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมนำตัวมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นให้การภาคเสธ อ้างลูกน้องเป็นคนพามาหาซึ่งไม่รู้ว่าเป็นการซื้อบริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า สำหรับปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 14 จุดในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยานั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายผลจากกรณีที่ตำรวจกองปราบฯร่วมกับมูลนิธิปวีณา ได้บุกเข้าช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 15 ปี ที่ถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายวิชัย เพ็ญสวัสดิ์ อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการครู และน.ส.ปาวีณา ทองเชื้อ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นอาเลี้ยงของผู้เสียหาย ในข้อหา "เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวงใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือโดยใช้เงิน หรือผลประโยชน์อย่างอื่นแก่ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิดในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล"

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมจนสามารถดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 14 ราย ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่เหล่านี้นั้นมีความหลากหลายทางอาชีพ มีทั้งข้าราชการของหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อค้า เซียนพระ ลูกจ้าง คนขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง และอื่นๆ ส่วนข้อกล่าวหาที่จะถูกดำเนินคดีของแต่ละคนนั้นจะมีความแตกต่างกันบ้างในบางราย ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานการกระทำความผิดที่พบของแต่ละคน และเพื่อให้สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้ครบทั้งหมดนั้น จึงทำให้ต้องมีการจัดปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในวันนี้

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผลปฏิบัติการในวันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้จำนวน 10 คน ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ซี 7 ซึ่งมีตำแหน่งเป็นนายช่างโยธาประจำสำนักงานเทศบาลแห่งหนึ่งรวมอยู่ด้วย และมีอีก 1 รายถูกแจ้งข้อหา "ข่มขืน" อีกด้วย ขณะที่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยศ ร.ต.ท. อายุ 58 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 14 ของผู้ที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติมนั้น จากการลงพื้นที่ตรวจค้นในวันนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ แต่จากการประสานตรวจสอบข้อมูลไปยังต้นสังกัดของนายตำรวจคนดังกล่าว ทราบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการลาพัก ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงได้ฝากบอกทางผู้บังคับบัญชาของนายตำรวจคนดังกล่าวว่าหากคิดว่าไม่ได้กระทำความผิดก็ขอให้เข้ามาติดต่อมอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจะดีกว่า

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด พบว่ามีบางรายยอมให้การรับสารภาพโดยรับว่ามีการใช้บริการทางเพศกับผู้เสียหายจริง ซึ่งอ้างว่าเป็นเพราะไม่รู้ว่าผู้เสียหายนั้นเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยการติดต่อกับอาเลี้ยงผ่านทางโทรศัพท์และแอปพลิเคชันไลน์ ก่อนที่ทางอาเลี้ยงจะนำตัวเด็กหญิงผู้เสียหายไปส่งตามสถานที่นัดหมายหรือตกลงกันไว้ แต่ในข้อเท็จจริงแล้วหากเราเคยพบเห็นผู้เสียหายจะทราบว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ต้องหาเหล่านี้จะไม่ทราบว่าผู้เสียหายเป็นเยาวชน ขณะที่ผู้ต้องหาอีกส่วนที่ยังคงให้การภาคเสธ และให้การปฏิเสธ นั้น ก็ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถจะให้การใดๆก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินการทางสำนวนของพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด เนื่องจากเจ้าหน้าที่นั้นได้ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่มีอยู่

"ส่วนหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมจากนี้อีกหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ คงต้องดูจากพยานหลักฐานซึ่งหากพบว่ายังมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้งกับการกระทำผิดดังกล่าวอีก ก็จะดำเนินการทางกฎหมายในทันที แต่เนื่องด้วยคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนทางสังคม และมีอัตราโทษค่อนข้างสูง จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบครอบรัดกุม" พ.ต.อ.อรุณ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเจ้าหน้าที่ปูพรมจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีซื้อบริการทางเพศเด็กแล้ว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวนที่กองปราบปรามฯ บรรดาภรรยาของผู้ต้องหาได้เดินทางมาเยี่ยมสามีที่กำลังถูกสอบสวน โดยส่วนใหญ่ได้ร้องห่มไห้ด้วยความเสียใจที่สามีพฤติกรรมนอกใจตัวเอง นอกจากนี้ทางผู้ต้องหาส่วนใหญ่ได้ปฏิเสธที่จะให้ภรรยาเข้าพบเนื่องจากกลัวว่าจะถูกดุด่าหรือเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายได้