จนท.เข้าช่วย 'แม่ล่ามโซ่ลูก' สารภาพทำไปเพราะลูกซนมาก

จนท.เข้าช่วย 'แม่ล่ามโซ่ลูก' สารภาพทำไปเพราะลูกซนมาก

จนท.เข้าช่วยเหลือด.ญ.-ด.ช.เมียนมาถูกล่ามโซ่ แม่สารภาพเป็นคนทำเหตุลูกซน-ดื้อ หวั่นถูกรถชน และมีลูกเล็กต้องดูแลอีกคน

สืบเนื่องจากกรณีมีผู้นำภาพเด็กผู้หญิงชาวต่างชาติถูกล่ามด้วยโซ่ที่ข้อเท้า พร้อมข้อความเชิงสอบถามสรุปได้ว่า เด็กในภาพดังกล่าวถูกแม่ล่ามโซ่ เดินไปเดินมาที่หน้าห้องพักแห่งหนึ่ง ในอาคารพูนผลไนท์พล่าซ่า อ.เมือง จ.ภูเก็ต แบบนี้จะทำอะไรได้บ้าง เขาไม่ใช่คนไทย มีอยู่สองคนพี่น้อง พูดไทยไม่ได้ อยากช่วยแต่ไม่รู้ทำอย่างไร ขอความช่วยเหลือเด็กหน่อย ผ่านโซเซียล และมีการแชร์ข้อความพร้อมทั้งการแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00น.วันนี้ (5ธ.ค.60) เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ One Home และเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดภูเก็ต นำโดย น.ส.อัจฉรา สุระกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ลงพื้นที่บริเวณห้องย่านย่านอาคารพูนผลไนท์พลาซ่าตามที่มีการระบุผ่านโซเซียลและได้รับการร้องเรียน

เพื่อตรวจข้อเท็จจริง และได้พบกับครอบครัวของเด็กหญิงที่ถูกล่ามโซ่ที่มีการแชร์ภาพผ่านโซเซียล จึงได้มีการเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับแม่ของเด็กโดยผ่านล่ามชาวพม่า ว่า การล่ามโซ่เด็กนั้นไม่สามารถทำได้ จากนั้นจึงนำตัวแม่ พ่อเลี้ยง และเด็ก มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เมืองภูเก็ต ก่อนที่จะนำเด็กหญิงวัย 7 ขวบ พร้อมด้วยพี่ชายวัย 9 ขวบ ไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวชั่วคราว

น.ส.อัจฉรา กล่าวถึงการไปพบครอบครัวของเด็กหญิงที่ถูกล่ามโซ่ ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ได้รับแจ้งว่ามีแม่ชาวเมียนมาล่ามโซ่ลูกไว้ ขอให้ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ จึงได้เดินทางลงพื้นที่ ซึ่งได้รับความมือจากชาวบ้านบริเวณนั้นพาไปพบเด็กและครอบครัวดังกล่าว จากการพูดคุยกับแม่เด็ก ซึ่งมีอายุ 33 ปี ผ่านล่าม ยอมรับว่า เป็นคนเอาโซ่มาล่ามขาลูกสาววัย 7 ขวบ ไว้จริง แต่ทำไปเพราะความรักและเป็นห่วง โดยอ้างว่าที่ทำอย่างนั้นเพราะเด็กซนมาก อยู่ไม่นิ่ง พูดไม่ฟังและชอบออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน จึงกลัวว่าอาจจะถูกรถเฉี่ยวชนได้

ประกอบกับตัวเองยังมีลูกเล็กวัยเพียง 1 เดือน เป็นลูกที่เกิดจากสามีใหม่ชาวเมียนมา ซึ่งมีอาชีพทำงานก่อสร้างเช่นกัน จึงทำให้ดูแลลูกไม่ทัน จึงต้องเอาโซ่มาล่ามไว้ เพื่อจะได้ไม่ออกไปวิ่งข้างนอก ส่วนที่เห็นเป็นรอยช้ำแดงนั้นยอมรับว่า เกิดจากการตีเพราะลูกไม่เชื่อฟัง และดื้อมาก จึงทำให้ตนค่อนข้างเครียด ซึ่งที่ทำไปทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เพราะไม่รักแต่กลัวลูกเป็นอันตราย และไม่ต้องการให้ลูกไปอยู่ที่อื่น

สำหรับแม่ชาวเมียนมาคนนี้ มีลูกทั้งหมด 5 คน โดย 4 คนแรกเป็นลูกที่เกิดจากสามีเก่า เดิมเด็กๆ จะอยู่ที่ประเทศเมียนมา แต่เมื่อ 5 เดือนที่แล้วได้รับลูก 3 คนมาอยู่ด้วย โดยคนโตอายุ 17 ปี คนรองอายุ 9 ปี และคนที่เห็นล่ามโซ่นั้นอายุ 7 ปี โดยเขาบอกว่าอยากจะดูแลลูกต่อไป และเราก็ไม่ได้ต้องการจะแยกเด็กออกจากครอบครัว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น การช่วยเหลือเบื้องต้น ต้องแยกเด็กออกมาก่อน ทั้งเด็กหญิงวัย 7 ขวบ และพี่ชายวัย 9 ขวบ รวมทั้งพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวิธีการเลี้ยงดูลูก

ส่วนของเด็กนั้นยังไม่สามารถพูดคุยได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดกลัวและไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ ระหว่างนี้จะนำเด็กมาดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวฯ ก่อน พร้อมทั้งจะมีการหารือในคณะกรรมการสหวิชาชีพฯ เพื่อสรุปแนวทางการช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรมต่อไป น.ส.อัจฉรากล่าว