ตำรวจรวบแก๊งล้วงกระเป๋าหน้ารพ.ศิริราช

ตำรวจรวบแก๊งล้วงกระเป๋าหน้ารพ.ศิริราช

ตำรวจรวบแก๊งล้วงกระเป๋าหน้ารพ.ศิริราช เผยเคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 20 ครั้งเน้นสถานที่คนสัญจรไปมาจำนวนมาก

ที่สน.บางกอกน้อย พ.ต.อ.คมสัน แตงจุ้ย ผกก.สน.บางกอกน้อย พร้อมด้วยพ.ต.ท.อภิวัฒน์ ชินภูมิวสนะ รองผกก.สส.สน.บางกอกน้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.บางกอกน้อย ร่วมกันจับกุมตัวนายประสิทธิ์หรือป้อม รักษาสุรสาร อายุ 50 ปี นายสุทธิพงศ์ หรือ ตู่ สินสุวรรณ อายุ 54 ปี และน.ส.กาญจนาหรือโอ๋ มุ่งจ่าง อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง ไอแพด มินิ สีดำ จำนวน 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายผ้ายีนส์ สีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ กระเป๋าสะพายหลังสีดำ ยี่ห้อ LADIZULO จำนวน 1 ใบ และกระเป๋าสะพายหนังสีดำ ของผู้หญิง จำนวน 1 ใบ โดยสามารถจับกุมได้ที่ปากซอยบรมราชชนนี 15 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.

พ.ต.อ.คมสัน เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางกอกน้อย ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุล้วงกระเป๋าที่ป้ายรถประจำทางหน้าตึกโอพีดี โรงพยาบาลศิริราช แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กทม. อยู่เป็นประจำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำกำลังไปซุ่มโป่งที่บริเวณหน้ารถประจำทางที่หน้าโรงพยาบาลศิริราช ทุกวันตั้งแต่เวลา 15.00 – 18.00 น. จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่ซุ่มโป่งอยู่หน้าป้ายรถประจำทางหน้าโรงพยาบาลศิริราช ได้รับแจ้งจากนางชนนิกานต์ ภู่ทอง อายุ54ปี ผู้เสียหาย ร้องตะโกนว่ามีคนร้ายล้วงกระเป๋าเอาไอแพค เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าทำการตรวจสอบ

พ.ต.อ.คมสัน กล่าวต่อว่าจากการสอบถามนางชนนิกานต์ทราบว่าเห็นคนร้ายได้วิ่งไปขึ้นรถสามล้อเครื่องมุ่งหน้าไปทางแยกอรุณอมรินทร์ เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปถึงที่ปากซอยบรมราชชนนี 15 พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเพื่อขอตรวจค้นตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ผลการตรวจค้นพบไอแพด ของกลาง อยู่ในกระเป๋าสะพายผ้ายีนส์ สีน้ำเงิน ที่นายสุทธิพงศ์ สะพายอยู่ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม

จากการสอบสวนนายสุทธิพงศ์ ให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุล้วงกระเป๋าของนางชนนิกานต์ที่กำลังจะขึ้นรถเมล์ที่หน้าโรงพยาบาลศิริราชมา โดยได้ร่วมมือกับนายประสิทธิ์และนางกาญจนาก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งนายประสิทธิ์จะทำหน้าที่เป็นคนล้วงจากกระเป๋าเป้ของผู้เสียหาย ส่วนตนเองทำหน้าที่กันคนด้านหลังผู้เสียหาย และนางกาญจนาทำหน้าที่กันคนด้านหน้า ก่อนที่จะให้นายประสิทธิ์เป็นคนรูดซิบกระเป๋าเป้ล้วงเอาไอแพด จากกระเป๋าเป้ของผู้เสียหาย จากนั้นนายประสิทธิ์จะส่งไอแพดให้ตน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี

พ.ต.อ.คมสัน กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายประสิทธิ์และนายสุทธิพงศ์เคยต้องโทษคดี “ลักทรัพย์” มาแล้วเมื่อปี58 ในท้องที่ของสน.บางยี่ขัน และสน.ชนะสงคราม ส่วนน.ส.กาญจนาเพิ่งเคยถูกจับเป็นครั้งแรก โดยทั้ง3 คนเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วมากกว่า20 ครั้ง และไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ก่อนจะชักชวนกันมาก่อเหตุดังกล่าวเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งสถานที่ก่อเหตุส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ที่คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก เช่นย่านห้างสรรพสินค้าเซนทรัล รพ.ศิริราช เยาวราช และย่านประตูน้ำ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป