พนังกั้นน้ำแม่น้ำตรังจ่อแตก ชาวบ้านผวาเตรียมอพย

พนังกั้นน้ำแม่น้ำตรังจ่อแตก ชาวบ้านผวาเตรียมอพย

พนังกั้นแม่น้ำตรัง ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง จ่อแตก หลังถูกแรงน้ำกัดเซาะทรุดเสียหาย ชาวบ้านผวาอพยพหนี 1-2 วัน ขณะที่ระดับน้ำเพิ่มระดับสูงขึ้น และไหลรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 ที่จังหวัดตรังสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 8 อำเภอ ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่กลางน้ำอย่าง อ.เมืองตรังวิกฤติหนัก ชาวบ้าน 7 ตำบล คือ ต.นาท่ามใต้ ,ต.นาท่ามเหนือ,ต.นาตาล่วง ,ต.หนองตรุด ,ต.บางรัก ,ต.ควนปริง และ ต.นาโต๊ะหมิง นับพันครัวเรือน อ่วมหนัก หลังฝนยังตกต่อเนื่อง และประกอบกับปริมาณน้ำเหนือจาก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช กำลังไหลลงมาสมทบระลอก 2 ทำให้แม่น้ำตรังล้นตลิ่งไหลบ่าอย่างรุนแรงข้ามพนังกั้นน้ำ และกัดเซาะพนัง

โดยเฉพาะที่บริเวณพนังกั้นน้ำบ้านปากหมัน ม.2 ต.หนองตรุด กระแสน้ำไหลแรงมาก ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้ไหลบ่าข้ามพนังกั้นน้ำแล้ว และกัดเซาะจนพนังกั้นน้ำทรุด พังทลายเป็นระยะทางยาวกว่า 100 เมตร และลึกเป็นโพรงใต้ดิน ซึ่งเป็นจุดเดิมที่พนังแตกเมื่อปลายปี 2559 จุดที่อ่อนไหวที่สุดเหลือความกว้างของพนังประมาณ 1 เมตรเศษ บ้านเรือนที่อยู่ใกล้จุดที่อ่อนไหวที่สุดดังกล่าวประมาณ 30 ครัวเรือน ต่างผวาพยายามหากระสอบทราย วัสดุที่หาได้ง่าย อิฐบล็อก กระเบื้อง และต้นกล้วยเท่าที่หาได้ มาจัดวางขวางทางน้ำ

อย่างไรก็ตาม หากพนังกั้นน้ำพังจะทำให้ชาวบ้านหมู่ที่ 2 กว่า 220 ครัวเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำ อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้บางหลังน้ำจมมิดหลังคาแล้ว ส่วนที่เหลือจึงอพยพไปอยู่ในเต้นท์ที่ อบต.จัดหาไว้แล้ว โดยชาวบ้านกล่าวอย่างวิตกกังวลว่าปริมาณน้ำไหลแรง เชี่ยวมาก และมากกว่าน้ำท่วมปลายปี 2559 –ต้นปี 2560 และยังสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงอยู่ในอาการผวา เกรงว่าพนังกั้นน้ำจะแตกได้ใน 1-2 วันนี้ ด้านเจ้าหน้าที่พยายามทำกันดิน ป้องกันพื้นที่

เช่นเดียวกับพนังกั้นน้ำม.4 ต.นาตาล่วง,ม.4, 6 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง ก็เป็นจุดที่อ่อนไหวจ่อแตกได้เช่นเดียวกัน เพราะน้ำไหลบ่าและกัดเซาะรุนแรง ทางจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมดอพยพไปอยู่ที่สูงเป็นการด่วนแล้ว

สรุปจังหวัดตรังประกาศเขตภัยพิบัติน้ำท่วมจำนวน 8 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.ย่านตาขาว อ.นาโยง อ.ห้วยยอด อ.รัษฎา อ.วังวิเศษ อ.นาโยง และ อ.กันตัง มีชาวบ้านเดือดร้อน 16,896 ครัวเรือน หรือ 51,896 คน พื้นที่เกษตรด้านพืชเสียหายแล้ว 209,899 ไร่ มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน