กรุงเทพฯเจ๋ง! ครองแชมป์เมืองนทท.ต้องมา 2 ปีซ้อน

กรุงเทพฯเจ๋ง! ครองแชมป์เมืองนทท.ต้องมา 2 ปีซ้อน

รัฐบาลดีใจกรุงเทพฯ ครองแชมป์เมืองนักท่องเที่ยวต้องมา 2 ปีซ้อน ชี้ต้องรักษาความนิยมให้ต่อเนื่อง พ่วงติด 1 ใน 6 เข้าชิงเงินรางวัลจากสโมสรฟุตบอลแมนซิตี้

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีกับกรุงเทพมหานครและคนไทยทั้งประเทศ หลังจากที่มาสเตอร์การ์ดได้มอบโล่ให้กับกรุงเทพมหานคร ในฐานะเมืองที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในโลก ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 จากผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางโลก ประจำปี 2560

"นายกฯ สนับสนุนให้ กทม. รักษาระดับความนิยมทุกรูปแบบของนักเดินทาง โดยเฉพาะให้กวดขันเรื่องความปลอดภัยและการเอารัดเอาเปรียบที่อาจทำให้นักท่องเที่ยวเบื่อหน่าย เช่น การคิดราคาค่าโดยสารรถสาธารณะ แท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก หรือค่าบริการอื่น ๆ ที่สูงกว่าคนไทย รวมทั้งให้ติดราคาอาหารให้ชัดเจน สร้างความอบอุ่นและรอยยิ้ม เพื่อต้อนรับผู้มาเยือนทุกคน" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ทั้งนี้กทม. ครองอันดับ 1 เมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกเดินทางมาเยือนมากที่สุดถึง 19.41 ล้านคน ตามมาด้วยลอนดอน 19.06 ล้านคน และ กทม. ยังติด 1 ใน 5 ของเมืองที่นักท่องเที่ยวพักค้างคืนและมีการจับจ่ายใช้สอยมากที่สุดถึง14.08 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมุ่งเน้นมาท่องเที่ยวพักผ่อนและติดต่อธุรกิจเป็นหลัก พร้อมทั้งใช้จ่ายเงินไปกับการช้อปปิ้ง ค่าที่พัก และการบริการต่าง ๆ มากที่สุดตามลำดับ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีข่าวดีที่ กทม.ได้รับคัดเลือกจากสโมสรฟุตบอล "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ซิตี้ ให้เข้าร่วมโครงการ Citizens Giving ชิงเงินรางวัลการกุศล 400,000 ปอนด์ เพื่อสนับสนุนโครงการสร้างสนามฟุตบอลในเมืองใหญ่และคัดเลือกเยาวชนเล่นฟุตบอลช่วยลดปัญหาสังคม ร่วมกับอีก 5 เมือง คือ แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ นิวยอร์กซิตี้และลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และกว่างโจว ประเทศจีน

สำหรับการได้รับคัดเลือกครั้งนี้ เกิดจากการที่ กทม. และ Right To Play Thailand องค์กรพัฒนาเอกชนนานาชาติในประเทศไทย ริเริ่มโครงการ Not Just For Kicks เพื่อใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อช่วยสร้างการเรียนรู้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณและชื่นชมที่ช่วยกันดูแลและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนไทยอีกแรงหนึ่ง โดยผู้ที่สนใจสามารถร่วมโหวตให้กับโครงการของไทยได้ตามช่องทางของสโมสรฟุตบอลดังกล่าว