พื้นที่ใต้เขื่อนปัตตานี จ.ยะลา น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.60 สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า ล่าสุดขณะนี้ ในเขตพื้นที่เทศบาลนครยะลา บางพื้นที่ระดับได้ลดลงบ้างแล้ว เนื่องจากฝนได้หยุดตก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง พื้นที่ติดริมแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านจังหวัดยะลา โดยแม่น้ำปัตตานี ยังคงมีมวลน้ำจำนวนมากที่ไหลผ่าน เพื่อเข้าสู่เขื่อนชลประทานปัตตานี ซึ่งจากภาพถ่ายมุมสูง จะเห็นได้ว่า มวลน้ำในแม่น้ำปัตตานี ที่ไหลสู่เขื่อนชลประทานปัตตานี ยังคงไหลล้นสปริงเวย์ ทำให้พื้นที่ใต้เขื่อน อย่างที่บ้านวังกระ ม.4 ต.ตาะเซะ อ.เมือง จ.ยะลา ยังคงถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ซึ่งจากข้อมูลสถานีวัดน้ำเหนือเขื่อนชลประทานปัตตานี มีแนวโน้มปริมาณน้ำลดลง แต่ยังอยู่ในสภาวะวิกฤติ ยกเว้นสถานีวัดน้ำ X77 บันนังสตา ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเกิดจากฝนหยุดตกทิ้งช่วง และทางเขื่อนชลประทานน้ำปัตตานีได้บริหารจัดการน้ำ เพื่อช่วยบรรเทาพื้นที่รับน้ำท้ายเขื่อนที่เกิดอุทกภัยอยู่ในขณะนี้

โดยรายงาน สถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าเขื่อนชลประทานปัตตานี ประจำวันที่ 1 ธ.ค.60จำนวน 667.00 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ระบายน้ำทางประตูระบายน้ำของเขื่อน 361.62 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน หรือ เท่ากับ 31.24 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน น้ำไหลผ่านสปริงเวย์ 171.36 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือ 14.80 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน รวมระบายทางท้ายเขื่อน และสปริงเวย์ 537.36 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน

นอกจากนี้ ทางเขื่อนชลประทานปัตตานี ได้ขอให้ทางเมืองปัตตานีเฝ้าระวัง เนื่องจากน้ำจากจังหวัดยะลาไหลเข้าไปสมทบกับปริมาณที่มีอยู่เดิม ทำให้น้ำจังหวัดปัตตานีปริมาณเพิ่มขึ้น และการระบายน้ำลงทะเลค่อนข้างลำบาก เนื่องจากน้ำทะเลหนุนและการสะสมของน้ำที่มีอยู่เดิม จึงขอให้ติดตามสถานการณ์ฝน และข่าวแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิดทั้งจังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา ทางกรมชลประทานได้ทำการบริหารจัดการน้ำ โดยดำเนินการระบายน้ำลงสู่คลองระบายน้ำเพื่อลดปัญหาการท่วมขังในพื้นที่น้ำท่วมขังซ้ำซาก

ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนบางลาง จ.ยะลา เมื่อล่าสุดวันที่ 1 ธ.ค. 60 ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำในเขื่อนบางลางเพิ่มขึ้นเป็น ร้อยละ 74 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 1077.45 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อวันที่ 30 พ.ย.60 มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนบางลาง 41.91 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่แม่น้ำสายบุรี ซึ่งไหลผ่าน อ.รามัน จ.ยะลา ก็ยังคงมีมวลน้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้เข้าท่วมพื้นที่ริมตลิ่งและพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ ทั้งนี้ เพราะในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นต้นน้ำสายบุรี มีฝนตกอย่างต่อเนื่องมาตลอด 4 วัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนสะสมไหลลงสู่แม่น้ำสายบุรีและยังคงเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำสายบุรี ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมขัง