‘ทรูวิชั่นส์-ฮอบบี้พลัส’ดันไทยฮับ‘คอมิคคอน’

‘ทรูวิชั่นส์-ฮอบบี้พลัส’ดันไทยฮับ‘คอมิคคอน’

มหกรรม“ป๊อป คัลเจอร์” มีการขยายตัวไปทั่วโลกและทั่วภูมิภาคเอเซีย วงการ“คอมิค คอน”ในประเทศไทย มองโอกาสผลักดัน“กรุงเทพฯ” ก้าวสู่ศูนย์กลาง(ฮับ)การจัดงานระดับภูมิภาคอาเซียน นำเสนอ ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายชาวไทยและนักท่องเที่ยว

ในปี 2557 เริ่มมีการสร้างสรรค์และจัดงาน “คอมิค คอน”ในไทย 2 งาน คือ “ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป” จัดงาน “แบงค็อก คอมิค คอน" เน้นคอนเทนท์ฮอลลีวูด จากฝั่งตะวันตก และ"ฮอบบี้ พลัสกับงาน

"ไทยแลนด์ คอมิค คอน”โฟกัสคอนเทนท์ญี่ปุ่นและฝั่งเอเชีย  

ล่าสุดสองผู้จัดงานคอมิค คอน ระดับประเทศ ประกาศความร่วมมือจัดงาน “แบงค็อก คอมิค คอน และไทยแลนด์ คอมิค คอน 2018” งานมหกรรมป๊อบ คัลเจอร์ ใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อผนึกกำลังนำจุดแข็งของงานจากฝั่งตะวันตกและตะวันออก มาร่วมอยู่ในงานเดียวกัน ระหว่างวันที่่ 27-29 เม.ย.2561 ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน บนพื้นที่ 7,000 ตร.ม.

องอาจ ประภากมล กรรมการ บริษัท ทรูวิชั่นส์ จํากัด กล่าวว่าการจัดงาน"คอมิค คอน" ในไทยตั้งแต่ปี 2557  มีการเติบโตขึ้นต่อเนื่อง จากกลุ่มที่่ชื่นชอบหนัง ทีวีซีรีส์ การ์ตูน อนิเมะ ของเล่น และอื่นๆ  การจัดงานแบงค็อก คอมิค คอน ที่ผ่านมามีสตูดิโอ ยักษ์ใหญ่ จากฮอลลีวู้ด ร่วมงานต่อเนื่อง จำนวนกว่า 100 บูธ  มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 6 หมื่นคน  มีเงินสะพัดจากการซื้อขายสินค้า 50-60  ล้านบาท 

การนำ 2 งานใหญ่ แบงค็อก คอมิค คอน มาจัดรวม ไทยแลนด์ คอมิค คอน  มาจัดในงานเดียว ทำให้เป็นงานใหญ่ระดับภูมิภาค สำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอนเทนท์จากฮอลลีวูดหรือผู้ที่สะสมหุ่นฟิกเกอร์ อนิเมะ ฝั่งญี่ปุ่น คาดว่าจะมีผู้ร่วมงานกว่า 1 แสนคน  มีผู้ร่วมออกบูธกว่า 200 ราย  มีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท  

“ความร่วมมือของทั้ง 2 ผู้จัดงานคอมิค คอน จะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการจัดงานโชว์ในเมืองไทย และสามารถต่อยอดให้กับอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงจะทำให้ตลาดนี้เติบโตได้อีกหลายเท่าตัว” 

องอาจ กล่าววอีกว่าในปี 2558 ได้นำงาน คอมิค คอน ไปจัดที่ จาการ์ต้า อินโดนีเซีย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันบริษัทมีความพร้อมจะนำงานคอมิค คอน ไปจัดงานยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต ซึ่งหลายประเทศมีศักภาพในการจัดงานดังกล่าวร่วมกับผู้ประกอบการท้องถิ่น  ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม

ขณะที่การจัดงานคอมิค คอน ในไทยถือเป็น“ฮับ”ของผู้ภูมิภาคนี้ ซึ่งไทยได้ประโยชน์จากการจัดมหกรรม ป๊อป คัลเจอร์ ที่ใช้เป็น “แม่เหล็ก”ดึงดูกนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบมหกรรมดังกล่าว ที่ผ่านมาการจัดงานมีชาวต่างชาติเข้าร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน ความร่วมมือของ 2 ผู้จัดคอมิค คอน ในปีหน้า  จะทำให้นักท่องเที่ยวกำหนดเป็นปฏิทินเดินทางเข้ามาร่วมงานได้สะดวก  หากมีการจัดงานต่อเนื่อง 

ทางด้าน ชาญวิทย์ วิทยสัมฤทธิ์ กรรมการ บริษัท ฮอบบี้ พลัส จำกัด กล่าวว่าการร่วมมือจัดงานคอมิค คอน ของสองผู้จัดในครั้งนี้ถือว่าเป็นการผสมผสานงานกันระหว่าง East Meets West โดยผู้ที่มางานนี้จะพบกับอีเวนท์ ป๊อป คัลเจอร์จากฝั่งฮอลลีวูดแห่งโลกตะวันตก และงานป๊อป คัลเจอร์พรีเมียมจากญี่ปุ่นมาไว้ในงานเดียวกัน 

ในงานจะเชิญดาราดังจากฮอลลีวูด และกลุ่มไอดอลชื่อดังจากญี่ปุ่นมาให้แฟนคลับได้พบปะ รวมทั้งโชว์จากการ์ตูนคาแรกเตอร์ นอกจากนี้ยังมีการประกวดคอสเพลย์ การแข่งเกม และการจัดแสดงของสะสมและฟิกเกอร์ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นต่างๆ

ปัจจุบันตลาดสินค้าเมอร์เชนไดส์ ลิขสิทธิ์ต่างๆ ในไทยมีมูลค่ากว่า 2,000  ล้านบาท มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องปีละ 10% จากฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบสินค้าคาแรกเตอร์ฮีโร่ต่างๆ ทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก