‘ฟินเทค’ ความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด

‘ฟินเทค’ ความท้าทายที่ไม่สิ้นสุด

ถึงแม้เทคโนโลยีใหม่ๆ จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่แห่งคุณค่า (Value Chain) ของการบริการทางการเงินแบบดั้งเดิม แต่สถาบันการเงินหลายแห่งยังขาดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ 

รายงาน Forging the future : how financial institutions are embracing fintech to evolve and grow ฉบับล่าสุดของ "เคพีเอ็มจี" ซึ่งทำการสำรวจสถาบันการเงิน 160 แห่ง ใน 36 ประเทศทั่วโลกพบว่า ธนาคาร บริษัทประกันภัย และบริษัทบริหารสินทรัพย์มีความเชื่อว่า เทคโนโลยี อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ บล็อกเชน และไอโอทีกำลังสร้างนิยามใหม่ให้กับการบริการทางการเงิน 

โดยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงมีบทบาทและผลักดันให้ธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองในการแข่งขันเพื่อความอยู่รอด 57% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า มาจากปัจจัยด้านเทคโนโลยีทางการเงินที่เกิดขึ้นใหม่ ตามมาด้วยความไม่แน่นอนของกฎเกณฑ์มาตรฐานและการกำกับดูแลในภาคธุรกิจที่บริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก 51% และโมเดลธุรกิจรูปแบบแบบใหม่ 46%

การตอบสนองขององค์กรต่อเทคโนโลยีฟินเทคแสดงให้เห็นถึงความท้าทายที่หลายธุรกิจกำลังเผชิญ เพียง 46% ของผู้ทำแบบสอบถามกล่าวว่า องค์กรของพวกเขามีการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนเพื่อรองรับเทคโนโลยีฟินเทค โดย 42% ชี้ว่า กลยุทธ์ดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพัฒนา 

ขณะที่อีก 10% ไม่มีกลยุทธ์ใดๆ เพื่อรองรับเทคโนโลยีฟินเทค และเพียง 47% ของสถาบันการเงินที่มีกลยุทธ์รองรับฟินเทคเผยว่า กลยุทธ์ของพวกเขาสอดคล้องกับความท้าทายจากนวัตกรรมที่เกิดขึ้น

ไปกับสตาร์ทอัพ

“เมอร์เรย์ เรสเบค” ประธานร่วม ฝ่ายฟินเทค เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า หลายกรณีมีการมอบหมายความรับผิดชอบไปที่แต่ละหน่วยงานที่แยกจากกัน โดยยังไม่มียุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมทั่วทั้งองค์กร จึงเห็นได้ว่าสถาบันทางการเงินหลายแห่งกำลังเผชิญกับอุปสรรคในการวางแผนและดำเนินกลยุทธ์ให้ครอบคลุม

ด้านวัตถุประสงค์ กว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการใช้ฟินเทคเพื่อยกระดับการบริการลูกค้าเป็นวัตถุประสงค์หลัก ตามมาด้วยการปฏิวัติความสามารถในการทำธุรกิจที่มีอยู่ 48%

“คริสโตเฟอร์ ซอนเดอร์” กรรมการบริหาร ที่ปรึกษาธุรกิจ เคพีเอ็มจี ประเทศไทยชี้ว่า ในไทยเห็นการพัฒนาที่โดดเด่นของเทคโนโลยีการชำระเงิน รวมถึงระบบการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด โดยนวัตกรรมฟินเทคที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้ายังเป็นเป้าหมายสูงสุดในการลงทุน 

จากผลสำรวจ การร่วมมือกัน โดยเฉพาะกับสตาร์ทอัพจะช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมในด้านเทคโนโลยีทางการเงิน 61% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า ธุรกิจของพวกเขามีการสร้างเครือข่ายพันธมิตรในด้านเทคโนโลยีทางการเงินในอดีต ขณะที่ 81% วางแผนที่จะขยายเครือข่ายพันธมิตรต่อไปในอนาคต

นอกจากนี้ 72% เชื่อว่า สตาร์ทอัพสายฟินเทคจะเป็นแหล่งกำเนิดหลักของนวัตกรรมในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับ 81% ที่ระบุว่า องค์กรของพวกเขากำลังจับมือ หรือมีแผนที่จะทำงานร่วมกันกับสตาร์ทอัพในอีก 12 เดือนข้างหน้า มากกว่านั้น 78% กล่าวว่า องค์กรของพวกเขากำลัง หรือมีแผนการที่จะจับมือกับหน่วยงานขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

ไม่มีทางลัด

”เอียน พอลลารี" ประธานร่วม ฝ่ายฟินเทค เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า จำนวนครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามมีกลยุทธ์ที่จะ “สร้างสรรค์พัฒนา” ไม่เพียงสตาร์ทอัพ สถาบันการเงินส่วนใหญ่มองเห็นศักยภาพของตนเองในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการฟินเทคในบางด้าน เรื่องนี้ความต้องการขึ้นไปเป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมจะช่วยจุดประกาย

สำหรับความสนใจในเรื่องของฟินเทคในอีก 3 ปีข้างหน้า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ความสนใจในการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า (Big Data) และ เอพีไอ(Application Program Interfaces) สัดส่วน 67% และ 55% ตามลำดับ

พอลลารีกล่าวว่า ไม่มีหนทางหรือวิธีการใดๆ ที่จะนำไปสู่การใช้ฟินเทคให้ประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ปัจจัยสู่ความสำเร็จที่สำคัญที่สุดคือการมีกลยุทธ์ฟินเทคที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจ มีการสนับสนุนโดยผู้บริหารระดับสูง รวมทั้งการตระหนักถึงความจำเป็นในการดำเนินงานในหลายมิติพร้อมกัน และนอกเหนือสิ่งอื่นใด ควรตั้งเป้าหมายที่มุ่งเน้นไปที่คุณค่าที่สามารถพิสูจน์ได้ รวมทั้งผลลัพธ์ด้านต้นทุนของลูกค้าจากการใช้บริการ รวมถึงการกำกับดูแล