บัญชีกลางเพิ่ม 'ค่าบริการโลหิต' เริ่ม1ม.ค.61

บัญชีกลางเพิ่ม 'ค่าบริการโลหิต' เริ่ม1ม.ค.61

"กรมบัญชีกลาง" ปรับอัตราค่าบริการเกี่ยวกับโลหิตและค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์ เริ่มใช้ 1 ม.ค. 61

กรมบัญชีกลางปรับอัตราค่าบริการเกี่ยวกับโลหิตและค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์ ให้มีความเหมาะสม ครอบคลุมการรักษาพยาบาล สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

นางญาณี แสงศรีจันทร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงอัตราค่าบริการเกี่ยวกับโลหิต และค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์ ให้มีความเหมาะสมครอบคลุมการรักษาพยาบาลที่จำเป็น สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัว ทั้งนี้ ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป

กรมบัญชีกลางได้ปรับปรุงรายการและอัตราค่าบริการฯ รวมทั้งกำหนดเงื่อนไขหรือข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายเพิ่มเติมบางรายการ และปรับหมวดหมู่ค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์ให้สอดคล้องกับระบบชื่อและรหัสมาตรฐานการตรวจทางห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (LOINC) รวมทั้งสอดคล้องกับการพัฒนาของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อการรักษา

สำหรับการปรับปรุงแก้ไขค่าบริการเกี่ยวกับโลหิต ได้เพิ่มรายการใหม่จำนวน 74 รายการ และปรับปรุงแก้ไขค่าตรวจวินิจฉัยทางเทคนิคการแพทย์ ปรับเพิ่มอัตราค่าบริการใหม่จำนวน 161 รายการ เช่น การเจาะเลือดเพื่อตรวจโซเดียม โปแตสเซียมคลอไรด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด จากอัตราค่าบริการเดิม 80 บาท ปรับเพิ่มเป็น 100 บาท และการตรวจหาแอนตี้บอดี้ ในกรณีผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ หรือการปลูกถ่ายไขกระดูก ได้แก่ ผ่าตัดเปลี่ยนไต ปลูกไขกระดูก ตรวจทั้งผู้ให้และผู้รับอวัยวะ จากอัตราค่าบริการเดิม 1,500 บาท ปรับเพิ่มเป็น 2,400 บาท

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับปรุงอัตราค่าบริการดังกล่าว ทั้งนี้ หากเป็นรายการตรวจวินิจฉัย/การรักษาพยาบาลที่นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ จะไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากการรักษาทางการแพทย์ต้องเป็นไปอย่างสมเหตุผลและจำเป็นต่อการรักษาในแต่ละกรณี ด้วยการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมทั้งเพิ่มการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่จำเป็นของผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว