ชาวบ้านบุรีรัมย์ผวาตีนแมวเหิมหนัก ตระเวนงัดบ้านทุบรถ พบร่องรอยปีนงัดแงะรวม 7 หลังภายในคืนเดียว
(27 พ.ย.60) ร.ต.อ.เดชา บุตรวิเศษ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภูธรจังหวัด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และเก็บหลักฐาน ภายในบริเวณบ้าน และรถยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายงัด และใช้ค้อนทุบกระจกแตกเพื่อฉกเอาทรัพย์สินมีค่า หลังได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายตระเวนงัดบ้านและทุบกระจกรถยนต์ทั้งของข้าราชการครู พยาบาล เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร “นวพล” ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง เมื่อคืนที่ผ่านมารวม 7 หลัง โดยคนร้ายสามารถงัดเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน และทุบกระจกรถฉกเอาเงินสด ทรัพย์สิน โทรศัพท์มือถือไปได้ 2 หลัง คือบ้าน นางกรรณิกา พรมดีมา เจ้าของร้านขายแว่นตา และรถยนต์ของ น.ส.เอมพร วิริยะขันติกุล ครูโรงเรียนพุทไธสง รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ส่วนอีก 5 หลังพบเพียงรอยเท้าคนร้ายเดินรอบบริเวณบ้าน แต่ไม่สามารถงัดเข้าไปได้เนื่องจากมีเหล็กดัด
โดยพฤติกรรมของคนร้ายจะลงมือก่อเหตุช่วงกลางคืน ทั้งที่เจ้าของยังนอนอยู่ภายในบ้าน โดยไม่ได้มีความเกรงกลัว จึงสร้างความหวาดระแวงให้กับผู้ที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านดังกล่าวเป็นอย่างมาก เกรงว่าคนร้ายจะหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ อาจจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ส่วนมากคนที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรเป็นเด็ก ผู้หญิง และผู้สูงอายุ เนื่องจากสามีไปทำงานต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัด ซึ่งจากข้อมูลพบว่าก่อนหน้านี้ก็มีบ้านครู ประธาน กต.ตร. และบ้านประชาชนภายในเดือนเดียวมากกว่า 10 หลัง แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้
นายวิรุต จันทไตร และ น.ส.เอมอร วิริยะขันติกุล สองสามีภรรยา กล่าวว่า เมื่อคืนเวลาประมาณตี 1 ได้ยินเสียงสัญญาณกันขโมยของรถยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านดัง จึงลุกขึ้นมาส่องหน้าต่างดูก็เห็นชายรูปร่างผอมสูงวิ่งหนีออกจากบ้านไปจากรวดเร็ว จากนั้นวิ่งออกมาดูหน้าบ้านค่อยมองเห็นกระจกรถถูกทุบแตกเสียหาย เมื่อตรวจสอบภายในก็พบข้าวของถูกรื้อค้น เงินสด และโทรศัพท์มือถือที่เก็บไว้ในกระเป๋าหายไป
เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็พบว่าถูกงัดบ้านเหมือนกันจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ที่ผ่านมาเคยได้ยินข่าวมีบ้านข้าราชการ และประชาชนในเขต อ.พุทไธสง ถูกงัดและทุบรถขโมยทรัพย์สินหลายราย แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับบ้านของตัวเอง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจุดเวรยามออกตรวจตราเข้มงวดมากขึ้น และเร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วด้วย เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นซ้ำอีก