แสนสิริโกยยอดแคมเปญโค้งสุดท้าย 9พันล้าน

แสนสิริโกยยอดแคมเปญโค้งสุดท้าย 9พันล้าน

แสนสิริปลื้มแคมเปญโค้งสุดท้าย“ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017” โกยยอดเกินเป้าพุ่งกว่า 9,000 ล้านบาท มั่นใจปิดยอดขายปลายปีตามเป้าหมาย 40,000 ล้านบาท 

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการจัดแคมเปญใหญ่ประจำปี “แสนสิริ ไลฟ์ คัมส์ โฮม 2017” (Sansiri Life Comes Home 2017) ช่วงโค้งสุดท้าย วันที่ 24-26 พ.ย.ที่ผ่านมา สร้างยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ รวม 9,000 ล้านบาท เกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8,000 ล้านบาท 

โดย 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ คือ โอกะ เฮาส์ และคาวะ เฮาส์ ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากที่สุด นอกจากนี้สามารถปิดการขายคอนโดพร้อมอยู่โครงการเดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ลูกค้าให้การตอบรับโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของกลุ่มแสนสิริเป็นอย่างดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ผลงานปิดการขายโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร จำนวน 327 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดโครงการล่าสุดภายใต้ความร่วมมือระหว่างบีทีเอสและแสนสิริ หลังเปิดขายแบบออนไลน์ บุ๊คกิ้งวันแรก ที่ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาทหรือเฉลี่ย 2.7 แสนบาทต่อตร.ม. มีสัดส่วนลูกค้าไทย 70% และต่างชาติ 30% สร้างยอดขายในตลาดต่างชาติได้ถึง 1,300 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังปิดการขายโครงการในตลาดต่างจังหวัด อาทิ โครงการเดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ มูลค่า 1,100 ล้านบาท โครงการดีคอนโด นครระยอง จำนวน 575 ยูนิต ที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าไทยทั้งด้านการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า โดยปิดการขายโครงการมูลค่ากว่า 830 ล้านบาท 

ส่งผลให้ยอดขายรวมของบริษัทขณะนี้ (1 ม.ค.-27 พ.ย.2560) มูลค่ารวมกว่า 34,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 85% จากเป้าหมายยอดขาย 40,000 ล้านบาท ซึ่งปรับเพิ่มจาก 36,000 ล้านบาท  จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้บริษัททุบสถิติก้าวเข้าสู่การบันทึกยอดขายสูงที่สุดของแสนสิริในปีนี้

นายเศรษฐา กล่าวว่าแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มแสนสิริในช่วงที่เหลือของปีนี้ เตรียมเดินหน้าตามแผนการลงทุนมูลค่า  2,800 ล้านบาท ใน 6 แบรนด์ของโลก ซึ่งเป็น 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก นับเป็นการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจอื่นครั้งสำคัญเพื่อสร้างพันธมิตรในประเภทธุรกิจอันหลากหลาย โดยทั้ง 6 ธุรกิจล้วนมีอัตราการเติบโตสูงในตลาดโลก ซึ่งจะเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของแสนสิรินอกประเทศไทย ด้วยกลยุทธ์โมเดลธุรกิจแบบ asset light ในยุคปฏิวัติดิจิทัล เพื่อสร้างโอกาสจากการผนึกกำลังร่วมและโอกาสการเติบโตที่รวดเร็ว โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัททั้ง 6 จากการเข้าถือหุ้นของแสนสิริจะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของแสนสิริ 

"แนวโน้มไตรมาส 4 ของปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีผลประกอบการที่โดดเด่นและดีที่สุดทั้งในด้านยอดขายพรีเซล รายได้ และกำไร” นายเศรษฐา กล่าว