รัฐ-เอกชนโหมอีเวนท์ปลายปีเพิ่ม‘ความถี่-ดันยอด’

บรรยากาศงานอีเวนท์ช่วงปลายปียังคงคึกคัก หลังจากทั้งภาครัฐ และภาคธุรกิจ ต่างเดินหน้าจัดงานทั้งงานแสดงสินค้า สัมมนาวิชาการ คอนเสิร์ต โดยเชื่อมั่นว่าบรรยากาศการซื้อขาย และทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว รวมถึงสินค้าใหม่ๆ จะทำให้มีเกิดการซื้อขาย และสร้างเงินสะพัดจำนวนมาก 

นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า ในช่วง 1 เดือนที่เหลือ อัตราการใช้พื้นที่จัดงานต่างๆ มีแนวโน้มที่ดี อยู่ที่ 55% ซึ่งดีกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ในอัตรา 47% เนื่องจากลูกค้ารายเดิมเพิ่มความถี่ในการจัดงานมากขึ้น โดยประเภทงานที่เข้ามาในช่วงโค้งสุดท้าย ได้แก่ มหกรรมแสดงสินค้ากระตุ้นการจับจ่ายซื้อเพื่อสอดรับกับเทศกาลส่งท้ายปี, งานในกลุ่มบันเทิง เช่น คอนเสิร์ต และเริ่มมีการจองพื้นที่เพื่อจัดงานปาร์ตี้และแต่งงานมากขึ้น

ทั้งนี้ อิมแพ็ค มีงานใหญ่ที่อยู่ในตาราง ได้แก่มอเตอร์ เอ็กซ์โป ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.ใช้พื้นที่รวมกว่า 1 แสนตร.ม. คาดจำนวนผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 ล้านคน. ขณะเดียวกัน มีงานแสดงสินค้าที่มีจำนวนผู้ร่วมงานกว่า 1 แสนคน ซึ่งตามปกติจัด 3-4 ครั้งต่อปี ที่มีกำหนดส่งท้ายในปีนี้ ได้แก่โฮมโปร เอ็กซ์โป วันที่ 17-26 พ.ย.,สปอร์ตเวิล์ด เอ็กซ์โป 17-26 พ.ย.,มหกรรมลดทะลุพิกัด ของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ระหว่างวันที่ 20-24 ธ.ค.

ภาครัฐปิดท้ายโอทอป ซิตี้

ขณะที่งานขนาดใหญ่ที่จัดโดยภาครัฐ ได้แก่โอทอป ซิตี้ ที่ปิดท้ายครั้งที่ 3 ประจำปีนี้ หลังจากจัดงานช่วงกลางปี คือ โอทอป มิดเยียร์ และช่วงเดือน ส.ค. คือ โอทอป ศิลปาชีพฯ จัดโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ระหว่างวันที่ 17-25 ธ.ค. ใช้พื้นที่ประมาณ 6 หมื่น ตร.ม. บนอาคารชาเลนเจอร์ ตลอด 9 วันของการจัดงาน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 3 แสนคน และตั้งเป้ายอดจำหน่ายมากกว่า 1,000 ล้านบาท

ส่วนกิจกรรมกลุ่มบันเทิง มีคอนเสิร์ตใหญ่ปิดท้ายได้แก่ คอนเสิร์ตของเจ เจตริน “เจ-ดีเอ็นเอ-เอ็กซ์-ทรีม คอนเสิร์ต” ที่อิมแพ็ค อารีน่า จัด 2 รอบ และมีผู้ชมรอบละกว่า 1.1 หมื่นคน ระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค. และคอนเสิร์ตคาราบาว ทัวร์ไฟนอล ที่อาคารธันเดอร์ โดม วันที่ 19 ธ.ค. ส่วนคอนเสิร์ตต่างประเทศที่คาดว่าจะมีผู้ชมครั้งละกว่า 5,000-1 หมื่นคน อาทิ “ชอว์น เมนเดส อิลลูมิเนท เวิลด์ ทัวร์ 2017 แบงค็อก”  ในวันที่ 11 ธ.ค.ที่ อิมแพ็ค อารีน่าและคอนเสิร์ต “เจบีเจ เฟิสต์ แฟน มีทติ้ง อิน แบงคอก” ในวันที่ 16 ธ.ค. นอกจากนั้นมีรายการประเภทกีฬา ได้แก่ การแข่งขันมวยกรง  “วัน แชมเปี้ยนชิฟ วอริเวอร์ส ออฟ เดอะ เวิลด์” วันที่ 9 ธ.ค.ที่อิมแพ็ค อารีน่า ด้วย

สำหรับการจองพื้นที่จัดงานเลี้ยง เริ่มเข้ามาตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมาไปจนถึงเดือน ม.ค.61 โดยหลายบริษัทเริ่มวางแผนจัดงานเลี้ยงพนักงาน,งานเลี้ยงปีใหม่ และการจัดงานแต่งงาน รวมแล้วเกือบ 100 งาน มีทั้งขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ยอดแขกผู้ร่วมงานเลี้ยง ปาร์ตี้ แต่งงาน ตั้งแต่ 100-1,000 คน

ไบเทค-ศูนย์ฯสิริกิติ์จัดงานนานาชาติ

ขณะที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เตรียมจัดงานใหญ่ อาทิ พาวเวอร์บาย เอ็กซ์โป เยียร์เอนด์ วันที่ 29 พ.ย.- 5 ธ.ค. และระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-3 ธ.ค. มี 2 งาน ได้แก่งานมันนี เอ็กซ์โป เยียร์เอนด์ และงานประชุมนานาชาติ Thailand Halal Assembly 2017 และระหว่างวันที่ 9-17 ธ.ค.ส่งท้ายด้วยมหกรรมสินค้าไทยแลนด์ เบสต์ ช้อปปิ้ง แฟร์

ส่วนศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีงานส่งท้ายเดือน ธ.ค. อาทิ งานสมาร์ท เอสเอ็มอี สมาร์ท สตาร์ทอัพ โดยธนาคารออมสินจัดงานแสดงสินค้าสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มสตาร์ทอัพ, งานระดับนานาชาติ “ซีเอซี เอเชีย ซัมมิท” ซึ่งเป็นการแสดงสินค้าและสัมมนาทางการเกษตรระดับเอเชีย และงานท่องเที่ยวไทย เก๋ไก๋ถึงชุมชน ระหว่างวันที่ 14-17 ธ.ค. โดยสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) จัดมหกรรมส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ทั้งรูปแบบองค์กรกับองค์กร (B2B) และองค์กรกับลูกค้า (B2C) เชิญผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ธุรกิจที่พักแรม การคมนาคม การบริการอาหาร สินค้าของที่ระลึก แหล่งท่องเที่ยว สวนสนุก วิสาหกิจชุมชน พบปะเจรจาทางธุรกิจ พร้อมร่วมกันจัดแสดงสินค้าและบริการจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป

มหกรรมยานยนต์เชื่อยอดจองเพิ่ม

ด้านนายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34 ซึ่งเป็นงานใหญ่ปลายปี ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี งานปีนี้เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ที่กำลังเติบโตได้มากขึ้น จากทิศทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น และการที่บริษัทรถยนต์เปิดตัวรถรุ่นใหม่เข้ามาเสริมตลาดจำนวนมาก โดยงานปีนี้มีรถยนต์เข้าร่วมงาน 35 ราย จาก 9 ประเทศ รถจักรยานยนต์ 20 ราย จาก 8 ประเทศ รวมถึงกิจกรรมการส่งเสริมการขายที่ยังคงมีความเข้มข้น และมีความหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกตามความต้องการ อีกทั้งช่วงเวลาจัดการ ถือว่าอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดของปี ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดจองรถยนต์ภายในงานได้ทั้งสิ้น 4 หม่ื่นคัน รถจักรยานยนต์กลุ่มบิ๊กไบค์ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน จำนวน 7,000 คัน และเมื่อรวมกับสินค้าอื่นๆ เช่น อุปกรณ์ตกแต่ง จะทำให้มีเงินสะพัดในงานนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท และมีผู้สนใจเข้าชมงานประมาณ 1.5 ล้านคน 

ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายผู้ชมงานปีนี้เท่ากับปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่ดีขึ้นจะทำให้ยอดจองรถยนต์สูงกว่าที่แล้วที่ทำได้ 3.24 หมื่นคัน 

สำหรับค่ายรถที่เข้าร่วมงานในปีนี้ประกอบด้วย แอสตัน มาร์ติน, ออดี้, เบนท์ลีย์, บีเอ็มดับเบิลยู, เชฟโรเลต, ฟอร์ด, โฟตอน, ฮอนด้า, ฮุนได, อีซูซุ, จากัวร์, เกีย, แลนด์ โรเวอร์, เลกซัส, มาเซราติ, มาสด้า, เมอร์เซเดส-เบนซ์, เอ็มจี, มินิ, มิตซูบิชิ, นิสสัน, ปอร์เช่, แรทเทิล, โรลส์-รอยซ์, ซูบารุ, ซูซูกิ, ทาทา, ไทยนา, โตโยต้า, วอลโว่ รวมถึงชุดแต่งผและรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระคือ บีเอ็มดับเบิลยู เพอร์ฟอร์แมนซ์. คาร์ลสัน, โมเก้, เอ็ม แซด สปีด และสวิฟท์