มงไม่ลง ยังคงรักเธอ

แม้ ‘มารีญา พูลเลิศลาภ’ จะพลาด ‘มง’ ไปเป็นที่สะเทือนใจของเหล่ากองเชียร์ แต่นี่คือการเข้ารอบที่ลึกที่สุดในรอบ 20 ปีของนางงามไทยบนเวทีประกวดนางงามจักรวาล นางงามหน้าฝรั่งที่ฝ่าเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสมของการเป็นตัวแทนความงามอย่างไทย มานั่งอยู่กลางใจกลายเป็นตัวเต็งที่คนไทยทุ่มแรงโหวต แถมติดโผโพลสื่อต่างชาติจนทำให้เรามีความหวังกันถึงขนาดบางคนลางานมาเฝ้าหน้าจอกันเลยทีเดียว แม้ไม่ได้ตำแหน่ง แต่ความรักและกำลังใจก็ยังท่วมท้นอยู่ดี โดยเฉพาะเมื่อทุกคนลองตอบคำถามที่เธอได้ในรอบสุดท้ายด้วยตัวเองบ้าง

​

มารีญา….นางงามลูกครึ่งหัวใจไทย

หญิงสาวผู้ทำให้เกิดปรากฎการณ์เชียร์นางงามกันสนั่นโลกโซเชียล และสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วยการเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปีคนนี้เป็นใครมาจากไหน

งั้นเรามาทำความรู้จักกับเธอกัน....

มารีญา ลูกครึ่งสวีเดน-ไทย อายุ 25 ปี มีชื่อจริงว่า มารีญา พูลเลิศลาภ หรือ มารีญา ลินน์ เอียเรียน (Maria Lynn Ehren) เธอเกิดที่ประเทศไทย ก่อนจะย้ายไปอยู่เวียดนามตอนอายุ 2 ขวบ เพราะต้องตามคุณพ่อที่ไปเป็นวิศวกรดูแลการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่นั่น ขณะที่คุณแม่ของเธอก็ได้รับเชิญไปเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาที่สถาบัน AIT ในกรุงฮานอย ก่อนที่ทั้งครอบครัวจะย้ายกลับมาเมืองไทยอีกครั้งตอนที่เธออายุ 7 ขวบ นั่นเองที่ทำให้มารีญาพูดได้หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ สวีเดน จีนกลาง และ เวียดนาม

สำหรับโปรไฟล์ด้านการศึกษาของมารีญานั้นก็ไม่เบา เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการบริหารธุรกิจจากประเทศเนเธอร์แลนด์ และจบปริญญาโทด้านการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยสต็อกโฮล์มประเทศสวีเดน ระหว่างอยู่ที่นั่น เธอทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และมีอาชีพเสริมเป็นดีเจ พอกลับมายังประเทศไทยหลังเรียนจบ ก็ได้ทำงานในแผนกการตลาดดิจิทัล บริษัท บรอดเกตไฟแนนเชียล ควบคู่ไปกับการทำงานในวงการบันเทิงหลายอย่าง

มารีญาเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 13 ปี ด้วยการเป็นนางแบบให้นิตยสารแอลล์ประเทศไทย และเดินแบบให้ห้องเสื้อ Headquarter ในงานบางกอกแฟชั่นวีค ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่เคยสวมรองเท้าส้นสูงเลยด้วยซ้ำ งานนั้น ทำให้เธอมีงานถ่ายแบบนิตยสาร และเล่นมิวสิควีดิโอของศิลปินหลายคนตามมา พออายุ 18 มารีญาก็ได้กลายมาเป็นนักร้องแนวป๊อปแดนซ์เบอร์แรกของค่ายสมอลล์รูม โดยมีผลงานเพลงชื่อแปลก ๆ อย่าง เบลอ, บุ๋ง, เก็บโต๊ะ ฯลฯ

นอกจากเป็นนางแบบ และนักร้องแล้ว มารีญายังมีผลงานภาพยนตร์โฆษณาผ่านหูผ่านตาคนไทยอีกนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Mistine, V - vite roll on Nivea Whitening, Sunslik, Lipton Green 9, Honda Jazz, D&P รวมถึงเล่นมิวสิควีดิโอให้กับศิลปิน Lemon Soup เพลง ระหว่างทาง, Golf - Mike เพลง Sexy-girl, บี้ The Star เพลง จังหวะของหัวใจ, ซีควินท์ เพลง Play Girl, เดอะ ริชแมนทอย เพลง อ๊อด อ๊อด

ไม่ใช่แค่งานบันเทิงเท่านั้น มารีญา ยังมีผลงานด้านวิชาการด้วย โดยเธอเคยเขียนบทความภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ “มวยคุก” ในชื่อเรื่อง Trial By Combat: Thai PrisonBoxing ให้กับนิตยสาร BROADSIGHT ฉบับเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2014 นอกจากนี้ มารีญา ยังเคยเป็นเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกให้ไปทัศนศึกษาที่องค์การนาซา และได้ขึ้นยานอวกาศด้วย

ถึงแม้ว่าจะได้ทำงานบันเทิงมาแล้วหลากหลาย แต่มารีญากลับรู้สึกว่ายังไม่สุดอย่างที่ใจหวัง ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของตัวเองอีกครั้งด้วยการเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ในปี 2560 อย่างกระทันหัน แล้วความสวย ความเฉลียวฉลาดในการตอบคำถาม ตลอดจนความสูงถึง 184 เซนติเมตร ก็ทำให้มารีญาได้มงกุฎมาครอง พร้อมตำแหน่ง Boutique Lady จาก Bangkok Airways ซึ่งทำให้เธอได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล 2017 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งได้เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายในที่สุด

เห็นหน้าลูกครึ่งแบบนี้ หลายคนอาจไม่รู้ว่า มารีญา นั้นชื่นชอบการสวดมนต์เป็นอย่างมาก โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ในรายการ ตีท้ายครัว ว่าจะสวดมนต์บท ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นประจำทุกวัน เพราะรู้สึกว่าการสวดมนต์ทำให้จิตใจสงบนิ่ง และมีสมาธิ นอกจากนี้เธอยังเชื่อในเรื่องของการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วอีกด้วย

สำหรับนิสัยส่วนตัวนั้น เพื่อนนางแบบอย่าง โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์ เป็นคนยืนยันว่า มารีญา เป็นคนเจ้าระเบียบ และมีอินเนอร์ความเป็นนางงามอยู่ในตัว นั่นคือ เป็นคนที่มีพลัง positive หรือพลังงานบวกอยู่ในตัวที่แผ่ออกไป ใครอยู่ด้วยแล้วจะรู้สึกดี ส่วนความสามารถพิเศษ และงานอดิเรกของเธอคือ เล่นเทนนิส เปียโน และเทควันโด

หญิงสาวมีความเพียบพร้อมขนาดนี้ ไม่แปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะออกตัวแรงในการเชียร์เธอ จนมาถึงรอบ 5 คนสุดท้ายที่เธอต้องเจอกับคำถามปราบเซียน

คำถามที่ไม่ตรงคำตอบของมารีญา

การตอบคำถามมีส่วนสำคัญมากในการที่ “มงจะลง” หรือไม่ เพราะคือการทดสอบความรู้ ความเฉลียวฉลาด ไหวพริบ ความคล่องแคล่ว และการรับมือในสภาวะที่กดดันได้ดี ในเว็บไซต์ thepagentplanet ระบุว่าการตอบคำถามเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของการตัดสินเลยทีเดียว คำถามรอบสุดท้ายสำหรับนางงานจักรวาลจึงไม่เคยง่าย

และคำถามรอบ 5 คนสุดท้ายที่มารีญาได้ในค่ำคืนแห่งการตัดสินนั้นคือ

“What do you think has been the most important social movement of your generation and why?

คุณคิดว่าอะไรคือความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดในยุคของคุณและทำไม?

มารีญาตอบว่า “We have an aging population, so the most important social movement is the youth. The youth is our future that we have to invest in, because they’re the ones who will look after the Earth we live in.”

“เราอยู่ในสังคมผู้สูงอายุ ฉะนั้นความเคลื่อนไหวทางสังคมที่สำคัญที่สุดคือเยาวชน เยาวชนคืออนาคตที่เราต้องลงทุนกับพวกเขา เพราะพวกเขาคือกลุ่มคนที่จะดูแลโลกที่เราอาศัยอยู่”

คำตอบของมารีญาเป็นคำตอบที่ทันสมัยตามวิสัยของคนรุ่นใหม่ แต่คำถามที่มารีญาได้รับเป็นคำถามยากเพราะกว้าง เธออาจเข้าใจความเคลื่อนไหวนั้นไปอีกทางหนึ่ง จึงเกิดการวิจารณ์ที่ว่าเธอตอบไม่ตรงคำถามขึ้นมา

เพราะความหมายที่แท้จริงของ Social Movement – ความเคลื่อนไหวทางสังคม มุ่งเป้าไปที่ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมซึ่งเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงในประเด็นสาธารณะ โดยกลุ่มคนที่มีความเห็นไปในทางเดียวกัน ตัวอย่างประเด็นทางสังคมที่มักจะมีการขับเคลื่อนเพื่อเปลี่ยนแปลงก็มี เช่น ประเด็นทางการเมือง สิ่งแวดล้อม สิทธิมนุษยชน ความรุนแรงในเด็กและสตรี LGBT คนพิการ เป็นต้น การเคลื่อนไหวทางสังคมมักเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม หรือสิทธิความเท่าเทียมต่างๆ มีประเด็นเรื่องการใช้อำนาจกดขี่ในสังคม หรือความไม่เป็นธรรมที่แฝงอยู่ในโครงสร้างสังคมซึ่งทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ตามมาด้วยการต่อสู้เคลื่อนไหว เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่ ประเด็นเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากคนกลุ่มน้อยๆ จนกลายเป็นความเคลื่อนไหวใหญ่ได้ในระดับประเทศ และนานาชาติ

การเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างของสังคมต้องอาศัยการต่อสู้อย่างหนักและยาวนาน ทำให้ประเด็นเหล่านี้มีความจริงจังและเข้มข้น เมื่อเทียบกับคำตอบของมารีญา ที่ไม่ใช่ว่าไม่ดี คำตอบของมารีญาเป็นคำตอบที่เข้ากับกระแสโลก และเป็นความจริงอย่างที่สุด (เด็กคือผู้ที่จะขับเคลื่อนอนาคต) แต่ “ความตื่น” เวทีใหญ่ระดับนี้ทำให้คำตอบผิดทางไป และดูเบาบางเมื่อเทียบกับความเข้มข้นของคำถาม แถมยังมีเสียงกระทบไปถึงสังคมไทย ที่มีความไม่ชัดเจนเรื่องขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม (ซึ่งจริงๆ แล้วชัด แต่อาจถูกทำให้เงียบ) ความยากในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงความไม่เท่าเทียมในสังคมเมื่อเราอยู่ในยุคของอำนาจนิยม รวมถึงการตั้งข้อสงสัยในความสนใจด้านสังคมของมารีญาเอง

เมื่อกลับไปดูประวัติของเธอ โดยเฉพาะบทความวิชาการเกี่ยวกับ “มวยคุก” ที่ว่าด้วยชีวิตของคนคุกในเมืองไทย การฝึกมวยในคุกเพื่อฝึกวินัย และต่อยมวยเพื่อที่ชนะ ใช้มวยปูทางออกจากกรงขังได้ ประเด็นนี้เราอาจไม่เคยรู้ แต่มารีญารู้และถ่ายทอดออกมา ดังนั้น ใช่ว่าเธอจะเป็นคนไม่มีความรู้และไม่สนใจสังคม

ข้อดีของคำถามที่ไม่ตรงคำตอบคือการจุดประกายความรู้โดยอัตโนมัติ ในผู้คนในโซเชียลมีเดียพากันพูดถึงการตอบคำถามนี้ และค้นหาความหมายที่แท้จริงของ “Social Movement – ความเคลื่อนไหวทางสังคม” และถามตัวเองว่าหากเป็นตัวเองจะตอบคำถามนี้อย่างไร เกิดการแสดงความเห็นและถกเถียงถึงเรื่องนี้กันอย่างคึกคัก

ฉะนั้น ต่อให้ #มงไม่ลงยังคงรักเธอ เป็นแฮชแท็กที่จริงมากสำหรับตอนนี้